นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดผู้ร่วมวิจัยวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กับบริษัทแอสตราเซเนกา เปิดเผยผลการวิจัยที่พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพร้อยละ 76 ในการต่อต้านการติดเชื้อโควิดแบบมีอาการ และสามารถป้องกันได้นาน 3 เดือนนับตั้งแต่การฉีดวัคซีนเข็มแรก ซึ่งหมายความว่า เมื่อฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วสามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ภายในเวลา 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์ ซึ่งนายแอนดรู พอลลาร์ด หัวหน้าคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เปิดเผยว่า การสร้างภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 22 วัน สอดคล้องกับรายงานของบริษัทแอสตราเซเนกาก่อนหน้านี้ที่ว่า การเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มแรกกับเข็มที่ 2 ที่ดีที่สุดคือประมาณ 8-12 สัปดาห์ รัฐบาลสหราชอาณาจักรจึงได้ประกาศขยายเวลาการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่ 2 เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่พลเมืองได้มากที่สุดก่อน
ในรายงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระบุด้วยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกจะเกิดภูมิต้านทานโควิดตั้งแต่วันที่ 22 ถึงวันที่ 90 โดยมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อร้อยละ 76 และภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ในระดับคงที่ในช่วง 3 เดือนแรกหลังได้รับวัคซีนเข็มแรก และเมื่อรับวัคซีนเข็มที่ 2 จะมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 82.4 แต่หากรับวัคซีนเข็มที่ 2 ในช่วงเวลาที่ห่างจากเข็มแรกไม่ถึง 6 สัปดาห์ วัคซีนจะมีประสิทธิภาพลดลงเหลือเพียงร้อยละ 54.9 เท่านั้น
...