UNSC จะประชุมวันนี้หารือสถานการณ์ในเมียนมาหลังกองทัพยึดอำนาจ

02 กุมภาพันธ์ 2564, 10:02น.


          คืบหน้าสถานการณ์ในเมียนมา หลังกองทัพเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันติบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) เมื่อเช้ามืดวานนี้ ควบคุมตัวนางซูจีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของพรรค NLD ไม่กี่ชั่วโมง ก่อนเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกเมื่อเช้าวานนี้ กองทัพให้เหตุผลการยึดอำนาจว่ารัฐบาลบกพร่องที่ไม่มีการสอบสวนอย่างจริงจังเรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง  



          แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทูตหลายคน เปิดเผยว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC)จะประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือสถานการณ์ในเมียนมา หลายฝ่ายขอให้ UNSC ลงมติคว่ำบาตรเมียนมาอย่างรุนแรงเพื่อตอบโต้การยึดอำนาจของกองทัพเมียนมา ถึงแม้ว่าประเทศจีน หนึ่งใน 5 สมาชิกถาวรประจำ UNSC และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเมียนมา ที่เป็นเพื่อนบ้าน อาจจะคัดค้านในเรื่องนี้ 



          การเข้ายึดอำนาจครั้งนี้กระทบต่อความพยายามมาหลายปีในการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยในเมียนมา อีกทั้งทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาราวหนึ่งล้านคนที่อาศัยอยู่ในค่ายอพยพในบังกลาเทศ เพื่อนบ้านในขณะนี้จะสามารถกลับไปยังรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของเมียนมาได้เมื่อใด หลังถูกกองทัพเมียนมาขับไล่ออกจากรัฐยะไข่ในปี 2560



          ด้านรัฐบาลสหรัฐฯและผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ต่างประณามการที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางซูจี โดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ระบุว่าการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาถือเป็นการทำลายกระบวนการปรับเปลี่ยนตนเองสู่ระบอบประชาธิปไตยของเมียนมา และทำลายหลักนิติธรรมโดยตรง



          นายไบเดน ระบุว่า ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเมียนมา 10 ปีแล้ว หลังประเมินว่าเมียนมามีความคืบหน้าโดยลำดับในการปรับตนเองสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่การที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจและนำระบบเผด็จการกลับมาใช้ปกครองใหม่จะทำให้สหรัฐฯมีความจำเป็นต้องทบทวนกฎหมายสหรัฐฯว่าด้วยการคว่ำบาตรเมียนมาอีกครั้งหนึ่งและจะดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป



          ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา บรรยากาศตามท้องถนนต่างๆค่อนข้างเงียบสงัดเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังทหารและตำรวจปราบจลาจลตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆในกรุงเนปิดอว์ และนครย่างกุ้ง ศูนย์กลางการค้าของเมียนมา ระบบโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตล่ม ไม่สามารถใช้สื่อสารได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน ชาวเมียนมากว่า 334,000 คน แสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมแฮชแท็ก #SaveMyanmar หลายคนเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นสีดำเพื่อแสดงความเศร้า ขณะที่บางคนเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นสีแดงเพื่อสนับสนุนพรรค NLD พร้อมภาพของนางซูจี



Cr: Reuters, Yahoo News Canada

ข่าวทั้งหมด

X