ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30 น.วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564

02 กุมภาพันธ์ 2564, 09:21น.


กองทัพเมียนมา ปลดรัฐมนตรี 24 คน-ธนาคาร เปิดทำการวันนี้



          สถานการณ์ในเมียนมา กองทัพเมียนมา ปลดรัฐมนตรี 24 คน และประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ขึ้นมาทดแทน 11 คนซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีมหาดไทย และรัฐมนตรีต่างประเทศ ขณะที่ ธนาคารในเมียนมา ซึ่งปิดบริการไปเมื่อวาน เนื่องจาก ประชาชนหลั่งไหลไปเข้าแถวยาวด้านหน้าธนาคารทั่วประเทศเพื่อถอนเงิน ประกาศว่าจะเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ชาวย่างกุ้งยังพากันไปกักตุนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นจากห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกต่างๆ ในเมือง ด้านบริษัทข้ามชาติที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาก็พยายามประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุปฏิวัติครั้งนี้



          ขณะที่ ชาวเมียนมา สะท้อนความไม่พอใจและโกรธแค้นในการปฏิวัติยึดอำนาจผ่านโซเชียลมีเดีย โดยข้อมูลจากเฟซบุ๊กระบุว่ามีผู้ติดแฮชแทก #SaveMyanmar มากกว่า 334,000 คน เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการรัฐประหาร ผู้ใช้เฟซบุ๊กในเมียนมาบางคนยังเปลี่ยนรูปในโปรไฟล์ของตนเป็นสีดำเพื่อสะท้อนความโศกเศร้า บางคนก็เปลี่ยนโปรไฟล์เป็นสีแดง เพื่อแสดงว่าสนับสนุนพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางออง ซาน ซูจี



ไทย หวังสถานการณ์ในเมียนมากลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว



          นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามพัฒนาการในเมียนมาและประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง อย่างใกล้ชิดโดยได้มีการแจ้งเตือนคนไทยในเมียนมาให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารด้วยแล้ว เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของไทยและเป็นประเทศสมาชิกที่สำคัญของอาเซียน ไทยจึงหวังที่จะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา และหวังว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะได้รับการแก้ไขอย่างสันติและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 



ผู้ประกันตน ม. 33 รออีกนิด ได้เงินเยียวยาแน่นอน



          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังหารือกับกระทรวงแรงงานหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ที่อยู่ในระบบประกันสังคม 11,000,000 คน เช่นเดียวกับกลุ่มอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19



          ส่วนจะเยียวยาเป็นเงินเท่าไร ขอพิจารณารายละเอียดและเกณฑ์ต่างๆ ร่วมกับกระทรวงแรงงานอีกครั้ง และจะหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด



           รูปแบบการจ่ายเงิน จะต้องทำผ่านประกันสังคม ซึ่งอาจคล้ายๆ โครงการ เราชนะ ที่จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน เบื้องต้นจะยึดจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ตามฐานข้อมูลประกันสังคม และจะนำมาประยุกต์ใช้กับการจ่ายเงินผ่านแอปฯเป๋าตัง ส่วนจะแจกเป็นเงินสดหรือไม่ ยังไม่ทราบ



           ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จะได้รับสิทธิเยียวยาจากรัฐบาล คาดว่า จะใช้เกณฑ์รายได้มาเป็นตัวชี้วัดแบบเดียวกับโครงการเราชนะ ได้แก่



-ต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกินกว่า 300,000 บาท



-มีเงินฝากในบัญชีธนาคารทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท



          ในสัปดาห์นี้ กระทรวงแรงงานจะเร่งหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรอง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป



อีก 2 สัปดาห์ คลัง สรุปแนวทางช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรม



          นายอาคม หารือร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจบริการต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ระลอกใหม่ว่า กระทรวงการคลัง รวมทั้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะสภาพคล่องทางการเงินว่าจะช่วยเหลืออย่างไร จนกว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมา เพราะขณะนี้หลายโรงแรมไม่สามารถแบกรับต้นทุนเป็นระยะเวลานานได้อีกแล้ว



ก่อนหน้านี้ ได้ช่วยเสริมสภาพคล่องทางอ้อมแล้ว เช่น



-ยืดเวลาจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64



-ภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถึงร้อยละ 90



-ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือร้อยละ 0.01



-ส่วนข้อเสนออื่นๆที่ยื่นเข้ามารับไว้พิจารณาแล้ว เช่น การจ้างงาน ที่เอกชนเสนอขอสนับสนุนเงินทุนพัฒนาแอปพลิเคชัน “ทักทาย” ของคนไทย สำหรับจองโรงแรมและที่พักได้



          ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ข้อเสนอที่ยื่นให้กระทรวงการคลังพิจารณา เช่น การออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งป้องกันและลดผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยการลดหย่อนภาษีหรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ส่วนการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ขอให้ยกเลิกมาตรการคุมเข้มสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ (แอลทีวี) ชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้ การช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านก่อสร้าง เช่น โครงการบ้านดีมีดาวน์ รวมทั้งแนวทางโกดังเก็บหนี้ เป็นต้น ซึ่ง รมว.คลัง รับเรื่องไว้แล้ว จะเร่งพิจารณาให้และภายใน 2 สัปดาห์จะทราบความคืบหน้าว่าแต่ละเรื่องจะมีแนวทางช่วยเหลือและแก้ปัญหาอย่างไร



กรมทางหลวง เปิดผลสอบ นั่งร้านสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองโคราชถล่ม เหตุจากคนขับรถเครนประมาท



          รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมาตอนแยกทางหลวงหมายเลข 2068-บรรจบทางหลวงหมายเลข 205 (ด้านเหนือ) (รวมทางแยกต่างระดับ) ตอน 2 เกิดเหตุตัวรับโครงสร้างสำหรับเทคอนกรีตสะพาน (นั่งร้าน) พังถล่มจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน เมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้วพร้อมสรุปผลเสนอนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และนำเสนอให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พิจารณา



           คณะกรรมการสรุปผลการสอบสวนและความเห็นว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของนั่งร้านขณะเทคอนกรีตโครงสร้างส่วนบนของสะพาน เกิดจากการกระทำของนาย ป. (ชื่อย่อ) ผู้ควบคุมบังคับรถเครน คันหมายเลขทะเบียน ตค 1672 นนทบุรี ลูกจ้างของบริษัทผู้รับจ้างโครงการดังกล่าว โดยกระทำด้วยความประมาท ปราศจากความระมัดระวัง  เนื่องจาก ขณะที่นาย ป. ควบคุมบังคับเคลื่อนตัวเครนไปเทคอนกรีตบริเวณส่วนปลายของชิ้นส่วนพื้นส่วนบน ในระหว่างทางที่รถเครนกำลังเคลื่อนตัวด้านซ้ายส่วนท้ายของรถเครนไปกระแทกกับนั่งร้าน ทำให้นั่งร้านเอียงและทรุดตัวลง ส่งผลให้นั่งร้านสะพานที่กำลังเทคอนกรีตพังถล่มทำให้คนงานก่อสร้างซึ่งปฏิบัติงานอยู่ด้านบนสะพานได้รับบาดเจ็บ 9 คน และงานก่อสร้างได้รับความเสียหาย ซึ่งบริษัทผู้รับจ้างมีบทลงโทษตามมาตรการการกระทำความผิดต่อไป ไม่เกี่ยวข้องกับกรมทางหลวง ส่วนเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ที่เสียหายระหว่างเกิดเหตุเป็นของผู้รับจ้างเช่นกันเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างจัดหามาใหม่เพื่อก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จต่อไป



          ส่วนนายช่างและวิศวกร 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงาน ไม่ได้บกพร่องต่อหน้าที่และมีส่วนเกี่ยวข้องทำให้นั่งร้านเกิดการทรุดตัวและพังถล่ม ดังนั้นอุบัติเหตุที่เกิดจากการทรุดตัวของนั่งร้านในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานก่อสร้างของกรมทางหลวง



แฟ้มภาพ กรมทางหลวง



รพ.เพชรเวช แถลงคนไข้ที่ก่อเหตุเมาจนขาดสติ ไม่ได้โมโหเพราะรอผลเลือดนาน



          คลิปคนไข้ ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ภายในโรงพยาบาลเพชรเวช อ้างว่า โรงพยาบาลให้บริการล่าช้า ทำให้รอผลเลือดนาน  นายวิเชียร นวกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรเวช พร้อมทีมแพทย์ในคืนวันเกิดเหตุ แถลงชี้แจงว่า หลังเกิดเหตุได้สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว นายธนกร ผู้ก่อเหตุได้เข้ามารับการรักษาในคืนวันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. โรงพยาบาลได้นำคนไข้เข้าดูแลที่ห้องฉุกเฉินทันที จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ไม่มีการพูดจาตำหนิ หรือ ใช้คำหยาบคายกับผู้ป่วย ซึ่งไม่น่าจะใช่เหตุผลของการก่อเหตุตามที่เป็นข่าวว่าคนไข้รอผลเลือดนานแต่อาจเป็นผลมาจากการดื่มสุรามาก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าทุกระบวนการของโรงพยาบาลไม่ล่าช้า ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง



          โรงพยาบาลยังไม่มีการพิจารณาในการดำเนินคดี มีเพียงเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความเท่านั้น ส่วนการไม่ตอบโต้ของ รปภ.เป็นการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว ที่จะต้องมีเมตตากับผู้ป่วยทุกคน ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนที่ทำหน้าที่ได้ดีมาก



          ด้าน นพ.วิสุทธิ์ ภัทรกิจนิรันดร์ แพทย์เวรประจำห้องฉุกเฉิน ในคืนวันเกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ว่า คนไข้ได้เข้ามาห้องฉุกเฉินด้วยอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีความดันสูง ขณะซักประวัติทราบว่าก่อนหน้านี้มีการดื่มสุราร่วมด้วย จากการวินิจฉัยคาดว่าอาจมีภาวะสุราเป็นพิษ เนื่องจากดื่มสุรามาประมาณ 10 แก้ว ระหว่างที่ให้ยาและเจาะเลือดคนไข้ก็ยังปกติดี แต่จู่ ๆ คนไข้บอกว่าต้องการเข้าห้องน้ำ โดยแจ้งว่าต้องการเข้าห้องน้ำเองไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่พาไป ซึ่งหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าว



 

ข่าวทั้งหมด

X