ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564

พรรค NLD เผย 'ซูจี' ถูกกักตัวที่บ้านพักในกรุงเนปิดอว์

         กองทัพเมียนมา ทำรัฐประหารยึดอำนาจด้วยการจู่โจมเข้าควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา และประธานาธิบดีวิน มิ้น และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ 1 ก.พ.64 พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนาน 1 ปี อ้างการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ชอบมาพากล ท่ามกลางเสียงประณามจากชาติตะวันตก แต่ก็มีหลายประเทศรวมทั้ง ไทย กัมพูชา และ ฟิลิปปินส์ วางตัวเป็นกลาง ชี้เป็นปัญหาภายใน

          โฆษกพรรคNLD เปิดเผยว่า นางซูจี ถูกกองทัพเมียนมา กักตัวที่บ้านพักในกรุงเนปิดอว์  นางซูจี เรียกร้องให้ชาวเมียนมา ต่อต้านการทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นการเขียนแถลงการณ์ไว้ก่อนที่จะถูกจับกุม

          สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา MRTV เผยแพร่ภาพ นายมินต์ ส่วย (Myint Swe) ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพเมียนมา ให้ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีหลังการทำรัฐประหาร ประชุมร่วมกับผู้นำกองทัพเมียนมา ซึ่งมีพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา อยู่ในภาพข่าวด้วย  สำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งนำเสนอข่าวนี้ รายงานว่ายังไม่สามารถระบุสถานที่ได้ว่าการพบกันครั้งนี้เป็นสถานที่ใด

อาเซียน เรียกร้อง เมียนมา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย

          สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เมียนมายึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย และให้ทุกฝ่ายใช้การเจรจาและการสมานฉันท์เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบตามเจตนารมณ์และประโยชน์สุขของชาวเมียนมา

จีน ย้ำความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับเมียนมา หวังไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก

          ด้านจีน ที่มีอิทธิพลอย่างมากกับเมียนมา ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่แถลงบอกว่ารับรู้ว่าเกิดการยึดอำนาจ นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า จีนเป็นเพื่อนบ้านซึ่งเป็นมิตรกับเมียนมา และหวังว่า ฝ่ายต่างๆ ในเมียนมาจะแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย หวังว่าจะไม่มีอำนาจจากภายนอกเข้าแทรกแซง

          จีนเป็นพันธมิตรคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมา คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 33 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมการค้าของเมียนมาทั้งหมด อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จีน ที่เปิดเผยเมื่อปี 2020 ดังนั้น สถานการณ์ภายในเมียนมา จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับจีน

          กองทัพเมียนมา เข้ายึดอำนาจและได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี และจัดการเลือกตั้งทั่วไป เนื่องจาก การเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. 63 เกิดจากการทุจริต เนื่องจากพบความผิดปกติในรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พรรค NLD ของนางซูจี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายด้วยคะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 80 บริหารประเทศต่ออีก 5 ปี ส่วนพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา USDP (Union Solidarity and Development) ซึ่งเป็นของกองทัพเมียนมา ชนะไปแค่ 33 ที่นั่ง จากทั้งหมด 476 ที่นั่ง ขณะที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้ง

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้สหรัฐฯ อาจใช้สถานการณ์ในเมียนมา เป็นแรงกดดันต่อจีน

          นายฟ่าน ฮงเว่ย (Fan Hongwei) ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน (Xiamen University) ได้ให้สัมภาษณ์กับโกลบอลไทม์สว่า สหรัฐฯอาจตอบโต้ด้วยการประกาศคว่ำบาตรเมียนมา รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนายโดนัลด์ ทรัมป์  ให้ความสนใจเวียดนามและมาเลเซีย แต่เพิกเฉยเมียนมา ต่างจากรัฐบาลสหรัฐฯชุดอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ที่ให้ความสำคัญไปที่เมียนมา จากยุทธศาสตร์การกลับมาสร้างความสมดุลภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐฯ สถานการณ์ในเมียนมา อาจเป็นโอกาสสำหรับรัฐบาลของนายโจ ไบเดน ซึ่งมีคนจำนวนมากเคยทำงานให้กับนายโอบามา ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเมียนมา และใช้เมียนมาเป็นแรงกดดันต่อจีน

          ส่วน หยิน ยี่หัง (Yin Yihang) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าในสมัยนายทรัมป์จะให้ความสนใจเมียนมาน้อยมาก แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนสหรัฐฯ ยังปลุกปั่นคนในพื้นที่บริเวณภาคเหนือของเมียนมา จากสถานการณ์ปัจจุบัน สหรัฐฯอาจใช้วิธี “color revolution approach” มาใช้กับเมียนมา

'หมอฟาวซี' แฉ 'ทรัมป์' กล่อมทีมแพทย์ให้รายงานเรื่องโควิด-19 ดีเกินจริง

          นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายทรัมป์ เคยพยายามกล่อมให้เขานำเสนอสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ให้ออกมาดีกว่าความเป็นจริง

          นพ.ฟาวซี ให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทมส์ ถึงช่วงที่ทำหน้าที่ในคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ โดยให้ข้อมูลว่าในช่วงแรกที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาด นายทรัมป์ พยายามลดทอนความร้ายแรงของสถานการณ์โรคระบาดลง

          เมื่อพูดถึงการรับมือโรคระบาดของรัฐบาลในสมัยนายทรัมป์ นพ.ฟาวซี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ทำงานอยู่มีความวิตกกังวลมาก นายทรัมป์ มักจะประเมินการรับมือทางการแพทย์ จากเรื่องเล่าที่ได้ยินมา ไม่ใช่จากข้อเท็จจริง และยอมรับว่า ขัดแย้งกับนายทรัมป์ เรื่องการประเมินและรับมือวิกฤตโรคโควิด-19

พายุหิมะถล่มสหรัฐฯ ทำให้น้ำมันขึ้นราคา

          สภาพอากาศในสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังเผชิญพายุหิมะครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่รัฐเพนซิลเวเนียไปจนถึงนิวอิงแลนด์ ทำให้ราคาน้ำมัน ขยับขึ้นในช่วงปิดตลาดวันจันทร์ 1ก.พ.64

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมี.ค.64 เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้น จับตา 'ไบเดน' หารือสว.ลดแพ็คเกจเยียวยาโควิด-19

          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากสัปดาห์ที่แล้วหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงหนัก จากแรงขายของนักลงทุน

-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 229.29 จุด หรือร้อยละ 0.76 ปิดที่ 30,211.91 จุด

-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 59.62 จุด หรือร้อยละ 1.61 ปิดที่ 3,773.86 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 332.70 จุด หรือร้อยละ 2.55 ปิดที่ 13,403.70 จุด

          ขณะเดียวกัน ตลาดจับตา ประธานาธิบดีไบเดน จะพบกับสมาชิกวุฒิสภารีพับลิกันสายกลาง เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอที่ต้องการปรับลดวงเงินในแพ็คเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้พรรคเดโมแครต เตรียมผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบผ่านสภาคองเกรส โดยไม่พึ่งเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันก็ตาม

          ส่วนราคาทองคำ พุ่งแรงกว่า 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ จากปัญหาติดขัดเกี่ยวกับการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 และหลายชาติกลับมาใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง

-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 13.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,863.90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์