หลายคนฝากความหวังการมีวัคซีนเพื่อใช้ป้องกันโรคโควิด-19แต่ประเด็นการเข้าถึงวัคซีนเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ล่าสุดนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กYong Poovorawan ถึงประเด็นโควิด 19 วัคซีน ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น และไม่มีผลประโยชน์ใดๆ พร้อมเปิดเผยข้อมูลของวัคซีนที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย ถึงประสิทธิภาพ โดยสรุปตามข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด ถึงรายละเอียดของประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับจุดตัดที่ความรุนแรงของโรค ตามระดับขององค์การอนามัยโลกว่าจะ ตัดที่ระดับ 3 หรือระดับ 4 เอาเป็นว่าระดับ 4 คือ ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาล
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมวัคซีนของจีนถึงไม่ศึกษาระยะที่ 3 ในประเทศจีน คุณหมอยงตอบว่า ในเมื่อประเทศจีนไม่มีการระบาดของโรค จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะทำในประเทศจีน ต้องไปทำในประเทศที่มีการระบาดสูง ไม่เหมือนวัคซีนของทางตะวันตกที่มีการระบาดของโรคอย่างมากในอเมริกาและอังกฤษ ในอนาคตวัคซีนของประเทศไทย ถ้าพัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 3 และการระบาดของโรคยังเป็นอย่างปัจจุบัน การศึกษาวิจัยในระยะที่ 3 ก็ต้องไปทำต่างประเทศเหมือนกัน โดยเฉพาะที่มีการระบาดอย่างสูง จึงจะเห็นประสิทธิภาพในการป้องกัน ในช่วงระยะเวลา 1 ปี การพัฒนาวัคซีน เป็นไปอย่างรวดเร็วผ่านระยะที่ 3 เข้าสู่การอนุมัติใช้ในภาวะฉุกเฉินแล้วร่วม 10 บริษัท ขณะนี้ตลาดของวัคซีนเป็นของผู้ขาย ผู้ซื้อไม่มีสิทธิ์เลือก ว่าอยากจะได้วัคซีนชนิดใด