ที่ประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ลงมติในวันนี้ (30 ม.ค.) เพื่อรับรองให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของเเอสตราเซเนกา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขอนุมัติให้ใช้วัคซีนก่อนหน้านี้ ซึ่งสื่อของทางการเวียดนามรายงานว่าเป็นการประชุมใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวนฟุก กล่าวว่า เวียดนามจะเริ่มการฉีดวัคซีนได้ภายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่เมืองท่าของไฮฟองจะมีการแยกจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 2 ล้านโดสเพื่อฉีดให้กับประชากรในเมือง
เวียดนามมีประชากรประมาณ 98 ล้านคน ได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการใช้มาตรการตรวจเชิงรุกและการกักกันแบบรวมศูนย์ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมประมาณ 1,700 คนนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงการติดเชื้อภายในประเทศ 873 คน
แต่เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) สาธารณสุขเวียดนาม รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คนที่จังหวัดหายเซืองที่อยู่ทางเหนือของประเทศ โดยคนหนึ่งถูกเรียกว่า "ผู้ป่วยรายที่ 1,552" เป็นหญิงชาวเวียดนาม อายุ 34 ปี ทำงานอยู่ที่โรงงาน เธอมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับหญิงชาวเวียดนามอีกคน ซึ่งเดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดชนิดกลายพันธุ์แบบเดียวกับที่พบในสหราชอาณาจักร สาธารณสุขเวียดนามจึงให้แยกกักกันคนงานในโรงงาน 2,340 คน และจัดให้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก จากนั้นในวันศุกร์ (29 ม.ค.) รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 53 คน และในวันนี้ (30 ม.ค.) รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่อีก 34 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดหายเซือง และในการระบาดระลอกใหม่นี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 180 คนแล้ว
....