บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จากสหรัฐฯ เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในการทดสอบทางคลินิกระยะสุดท้ายพบว่ามีประสิทธิภาพร้อยละ 66 โดยวัคซีนของบริษัทเป็นแบบเข็มเดียว และบริษัทมีความตั้งใจที่จะยื่นขออนุมัติการใช้งานในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดส่งได้ทันทีหลังจากได้รับอนุญาต
ในรายงานของบริษัทระบุว่า มีผู้เข้าร่วมการทดสอบ 44,000 คนมีระดับการป้องกันการติดเชื้อในระดับปานกลางถึงรุนแรง 28 วันหลังการฉีดวัคซีน โดยมีประสิทธิภาพในระดับร้อยละ 72 ในสหรัฐอเมริกา
ร้อยละ 66 ในละตินอเมริกา
ร้อยละ 57 ในแอฟริกาใต้ ซึ่งบริษัทยอมรับว่าเป็นตัวแปรที่น่ากังวล
แต่ยืนยันว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพร้อยละ 85 ในการป้องกันโรครุนแรงในทุกภูมิภาค จากการศึกษาในผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและยังแสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่สมบูรณ์จากการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตด้วย
สหรัฐฯ มีวัคซีนสองชนิด 2 ชนิดได้รับอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนธันวาคม คือวัคซีนของไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทของสหรัฐฯ กับบริษัทไบโอเอ็นเทค เอสอี ซึ่งเป็นของเยอรมนี และเปิดเผยเมื่อต้นเดือน (ม.ค.) ว่าผลการวิจัยในเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าวัคซีนของพวกเขามีแนวโน้มที่จะสามารถป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้
และอีกชนิดหนึ่งคือวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาอิงค์ ซึ่งเปิดเผยว่าวัคซีนของบริษัทสามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์ต่างๆได้ แต่กำลังรับสมัครอาสาสมัครทดลองวัคซีนป้องกันสายพันธุ์แอฟริกาใต้
....