นายกรัฐมนตรีฌ็อง คาสเท็กซ์ แห่งฝรั่งเศส ประกาศปิดพรมแดนฝรั่งเศสกับประเทศนอกสหภาพยุโรป ยกเว้นการเดินทางที่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 3 ตามที่มีการคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ คำสั่งนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ (31 ม.ค.) เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ไม่รวมร้านขายอาหารจะปิดให้บริการในวันอาทิตย์และใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการเคอร์ฟิว การฝ่าฝืนรวมกลุ่มบุคคล และการเปิดร้านอาหาร
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า แม้มาตรการล็อกดาวน์จะมีความเหมาะสมต่อการควบคุมโรคระบาด แต่ทุกคนรู้ดีว่ามาตรการนี้ทำให้มีผลกระทบอย่างหนักในทุกด้าน นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ไม่มีผลต่อผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
คำกล่าวของประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีขึ้นก่อนที่สำนักงานยาแห่งยุโรป (European Medicines Agency : EMA) ออกคำแนะนำให้ใช้วัคซีนนี้สำหรับผู้ใหญ่ทุกวัย ซึ่งทำให้หน่วยงานด้านสุขภาพของฝรั่งเศสจะจัดการประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับวัคซีนที่จะฉีดให้กับบุคคลแต่ละช่วงอายุ
ในขณะเดียวกันคณะกรรมการวัคซีนของเยอรมนี ได้ให้คำแนะนำว่าจะไม่ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาในกลุ่มผู้สูงอายุเนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
....