ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564

ข่าวดี! อาการผู้ว่าฯสมุทรสาคร หายใจดีขึ้น รอยฝ้าจากการเอกซเรย์ปอดลดลง

          รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ยังมีความหวัง ระบบการหายใจกระเตื้องดีขึ้น รอยฝ้าจากการเอกซเรย์ปอดลดลง พร้อมฝากบอกคนที่จะบริจาคปอดให้ผู้ว่าฯ ปอดมนุษย์ ไม่สามารถตัดข้างหนึ่งบริจาคให้คนอื่นได้ โดยระบุว่า สำหรับสถานการณ์โดยรวมของผู้ว่าฯจ.สมุทรสาคร มีการกระเตื้องขึ้น ยังคงมีความหวังกันต่อไป และได้โทรศัพท์ไปสอบถามอาการแพทย์ที่อยู่เวรถึงอาการคนไข้โควิด-19 วิกฤต ในความดูแลทั้ง 4 คน ทุกคนอาการคงที่ดี

          สำหรับอาการผู้ว่าฯ จ.สมุทรสาคร แม้ยังต้องใช้ยาระงับความรู้สึกค่อนข้างมาก เพื่อช่วยการหายใจ ให้เป็นไปโดยราบรื่น แต่เริ่มมีสัญญาณชี้ว่า การแลกเปลี่ยนก๊าซของปอดกระเตื้องขึ้น พร้อมกับรอยฝ้าจากเอกซเรย์ปอดที่ลดลง ส่วนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ยังเป็นไปด้วยดี หวังว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงต่อไปสำหรับอาการจะเป็นไปในทางที่เป็นคุณ โดยเฉพาะการที่คณะแพทย์ให้ยาที่จะช่วยซ่อมแซมปอดส่วนที่สึกหรอไปจากเชื้อโควิด-19 ให้กลับคืนมาบางส่วนหรือถ้ามากส่วนก็จะยิ่งดี สำหรับเรื่องการผ่าตัดเปลี่ยนปอด ยังไม่อยู่ในแผนการขณะนี้ ดังนั้น คนที่ออกข่าวว่าจะบริจาคปอดให้ผู้ว่าฯจ.สมุทรสาคร คงไม่มีความจำเป็น ที่สำคัญปอดของมนุษย์ไม่สามารถตัดข้างหนึ่ง บริจาคให้คนอื่นได้ เหมือนการเปลี่ยนไต

          หากจำกันได้ ที่กล่าวถึงผู้ป่วยหนักจากโควิด-19อีกคนหนึ่งที่ต้องใช้เครื่องปอดและหัวใจเทียมมาระยะหนึ่งแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า ปอดจะฟื้นตัว แถมมีภาวะแทรกซ้อนจากไตวายเฉียบพลันและระบบการแข็งตัวของเลือดล้มเหลวมาทำให้ทรุดลงไปอีก

CR:รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล

ส่งมอบ รพ.สนาม ศูนย์ห่วงใยคนสาคร สร้างเสร็จใน 20วัน มีเตียงรับผู้ติดเชื้อ 1,000 เตียง

           ศูนย์ Covid-19 เผยแพร่ภาพ ศูนย์ห่วงใยคนสาคร วัฒนาแฟคตอรี่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เสร็จเรียบร้อยแล้ว และในวันนี้ 29 ม.ค. 64 จะมีพิธีสงฆ์ และการส่งมอบศูนย์ห่วงใยคนสาคร (รพ.สนาม) ให้จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร

          นายวัฒนา เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากนายวีระศักดิ์ว่า อยากจะขอพื้นที่สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ ทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ตนและหุ้นส่วนยินยอม แต่มีเสียงทักท้วงจากชาวบ้านว่าไม่ยอมให้ทำ เนื่องจากใกล้ศาลพันท้ายนรสิงห์ สถานที่ท่องเที่ยว ต่อมาได้ปรึกษากับนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร ให้เปลี่ยนมาเป็นโครงการวัฒนาแฟคตอรี่ 2 อาคาร ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ ยังไม่เปิดขาย ให้ทำเป็นศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 3 จำนวน 240 เตียง ซึ่งตนพร้อมที่จะยกให้ทางจังหวัดได้นำไปใช้ แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ต่อมา เห็นว่า ยังมีความต้องการโรงพยาบาลสนามอีกมากและเห็นความห่วงใยของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก่อนจะเข้าโรงพยาบาลได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ว่าขอให้ช่วยหาพื้นที่ทำเป็นโรงพยาบาลสนามให้อีกเพราะถ้าไม่มีโรงพยาบาลสนามก็สู้ไม่ไหว จึงตัดสินใจสร้างโรงพยาบาลสนามขนาด 1,000 เตียง เพิ่มขึ้นอีกบนที่ดิน 8 ไร่ เป็นอาคารขนาด 2,400 ตารางเมตร จำนวน 2 อาคาร และออกเงินค่าก่อสร้างให้โดยไม่เกี่ยวข้องกับราชการ ถ้าไม่พอตนก็พร้อมที่จะให้สร้างอีก เพราะพื้นที่ในบริเวณวัฒนาแฟคตอรี่ ทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 100 ไร่ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็เข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการติดเชื้อโควิด-19

          นายวัฒนา กล่าวว่า อยากจะฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ในขณะนี้ว่าได้ทำให้ตามที่รับปากแล้ว และพร้อมที่จะเปิดโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียงนี้แล้ว เพื่อให้สบายใจมากขึ้น มีแรงต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ให้หาย

          ปัจจุบัน ศูนย์ห่วงใยคนสาคร หรือโรงพยาบาลสนามในจังหวัดสมุทรสาคร มีทั้งหมด 9 แห่ง ยังเหลือบริษัท วิท วอเตอร์ ซิสเต็ม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท เดอะ มันนี่ จำกัด ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ที่กำลังดำเนินการ รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้สูงสุด 400 เตียง คาดว่า จะเปิดใช้งานต้นเดือนก.พ.64 ซึ่งจะทำให้ศูนย์ห่วงใยคนสาคร รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้สูงสุด 3,583 เตียง

          ส่วนศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร หรือสถานที่ควบคุมและป้องกันโรคในสถานประกอบการ (Factory Quarantine หรือ FQ) มีอยู่ 13 แห่ง รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้สูงสุดเกือบ 3,000 เตียง พร้อมใช้งานแล้ว 10 แห่ง กว่า 2,500 เตียง อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 3 แห่ง จำนวนกว่า 400 เตียง

          น.ส.กุลยา เปิดเผยถึงประมาณการเศรษฐกิจไทยประจำปี 2563 และ 2564 ว่า คลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 64 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.3-3.3 ปรับลดลงจากการประมาณการณ์ครั้งก่อนร้อยละ 4.5 เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในไทยและทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทย การเดินทางระหว่างประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทำให้คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปีนี้จะลดลง

          อย่างไรก็ดี มีสัญญาณบวกจากการได้รับวัคซีนของประชากรในประเทศต่างๆ ในระยะต่อไป ประกอบกับภาครัฐได้ดำเนินมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และมาตรการด้านการเงินเพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 63 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ -6.5 ต่อปี หดตัวน้อยกว่าที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือน ต.ค.63 ที่ร้อยละ -7.7 ต่อปี