*ยูเออีเผยกลุ่มโอเปกจะไม่เข้าพยุงราคาน้ำมันดิบในตลาดอีกต่อไป*

นายซูฮาอิล อัล มาซรูอี รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี)กล่าวในที่ประชุมกัลฟ์ อินเทลลิเจนซ์ ยูเออี เอ็นเนอร์ยี ฟอร์รั่มในกรุงอาบูดาบีในวันนี้ว่า กลุ่มโอเปกจะไม่เข้าพยุงราคาน้ำมันดิบอีกแล้ว ระบุว่า ปริมาณน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งหินดินดานในทวีปอเมริกาเหนือต่างหากที่ควรจะถูกปรับลดลงให้อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม แม้ว่ายูเออีจะมีความเป็นกังวลในเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร โอเปกก็ไม่ใช่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้แต่ฝ่ายเดียว เขาหมายถึงปริมาณน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มที่ไม่ใช่สมาชิกโอเปก เขากล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกควรจะปรับลดการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจโลกด้วย ระบุว่า ระดับราคาปัจจุบันถือว่าไม่ยั่งยืน หรือไม่คุ้มค่าการลงทุนสำหรับพวกเขา

นอกจากนั้น ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกจะลดการผลิตลง ผู้ผลิตรายอื่นๆก็อาจจะผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายไป จะส่งผลให้กลุ่มโอเปกสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปโดยที่ไม่อาจช่วยพยุงราคาน้ำมันด้วย ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีก่อน แต่การร่วงลงของน้ำมันดิบเร่งตัวในอัตราที่เร็วขึ้นเมื่อเดือนพฤศิจกายน เมื่อกลุ่มโอเปกตัดสินใจคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิมคือ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า สมาชิกที่ร่ำรวยของกลุ่มโอเปกเช่น ยูเออี พร้อมจะทำใจยอมรับราคาน้ำมันดิบที่ลดลง หวังว่าจะกดดันผู้ผลิตจากแหล่งหินดินดานที่ใช้ต้นทุนแพงกว่าให้ต้องประสบปัญหาขาดทุนและปิดกิจการลงในที่สุด

สำหรับราคาน้ำมันได้ร่วงลงต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 6 ปีในตลาดเอเชียในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวานนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2552 การร่วงลงดังกล่าวมีขึ้นหลังโกลด์แมน ซาคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ในตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทของสหรัฐฯปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน เพิ่มความหวั่นวิตกเรื่องอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด อุปสงค์ที่อ่อนแอ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในตลาดหลักๆเช่น จีนและสหภาพยุโรป