นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการเรียนการสอนตามปกติ ในวันที่ 1 ก.พ.64 ยกเว้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่ยังต้องปิดเรียนไปก่อน
โดยโรงเรียนที่จะเปิดการเรียนการสอน จะต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับสถานศึกษา ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการของหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานผู้กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
สำหรับในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดปทุมธานี ให้เปิดการเรียนการสอนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 แต่ต้องปฎิบัติตามแนวทางป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการของหน่วยงานต้นสังกัดอย่างเคร่งครัด โดยแต่ละห้องเรียนให้มีนักเรียนได้ไม่เกิน 25 คน กรณีห้องเรียนไม่เพียงพอ ให้จัดการเรียนการสอนด้วยการสลับวันเรียน จัดจุดล้างมือ และวัดไข้ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ส่วนโรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร ยังต้องปิดการเรียนการสอนต่อไป เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดจำนวนมาก โดยระหว่างที่ปิดการเรียนการสอน ส่วนราชการต้นสังกัดต้องกำหนดแนวทางจัดการเรียนการสอนตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ เช่น การสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ สถานศึกษาอาจจัดการเรียนการสอนโดยใบสั่งงาน หรือมอบหมายงานตามความเหมาะสม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังประสานให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หาแนวทางช่วยเหลือผู้ปกครอง เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอินเตอร์เน็ตที่ลูกหลานต้องเรียนออนไลน์ในช่วงเดือน ม.ค.64 เมื่อได้แนวทางแล้ว จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา สำหรับการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาแก่ผู้ปกครองโรงเรียนเอกชนในระบบ คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ทำหนังสือถึงโรงเรียนเอกชนในระบบทั่วประเทศ ให้สรุปค่าธรรมเนียมการศึกษาที่เป็นค่าบริการที่ไม่เกินจริง เช่น ค่าอาหารกลางวัน ค่าเครื่องใช้แรกเข้า ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ ค่าทัศนศึกษา ค่ารถรับส่ง เป็นต้น เพื่อสรุปรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ว่ามีรายการใดบ้างที่ต้องจ่ายคืนผู้ปกครอง เนื่องจากตลอดเดือน ม.ค.64 ไม่ได้มีการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน