กระทรวงสาธารณสุข เปิดไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล็อตแรก ในวันที่ 14 ก.พ.64 โดยกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มที่จะได้รับวัคซีน คือ
1.บุคลากรทางการแพทย์
2.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
3.บุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง , โรคหัวใจและหลอดเลือด , โรคหลอดเลือดสมอง , โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษา,โรคเบาหวาน
4.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค เช่น ตำรวจ , ทหาร , เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ , เจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยเริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 14 ก.พ.64 และจะเตรียมความพร้อมด้วยการจัดทำไลน์ออฟฟิสเชียล "หมอพร้อม" เพื่อรองรับการให้บริการวัคซีน เช่น การลงทะเบียนผู้รับวัคซีน การติดตามอาการไม่พึงประสงค์ และเปิดใช้งานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในวันที่ 12 ก.พ.64 ส่วนประชาชนทั่วไป เปิดให้ใช้งานในเดือน เม.ย.64
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ย้ำว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยและปฎิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเหมือนเดิม เพราะในต่างประเทศมีการย้ำเตือนในประเด็นนี้มาก เพราะน่าเป็นห่วงว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว จะคิดว่ากลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันทีโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจะทำให้ยังมีโอกาสติดเชื้อ การจะถอดหน้ากากอนามัยออกได้ถาวร นั่นคือ จะต้องทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 หายไปจากประเทศอย่างถาวร ด้วยการให้คนในประเทศจำนวนมาก มีภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็นจากการฉีดวัคซีน หรือการหายป่วยและร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นเอง