แอสตราเซเนกา ปฏิเสธข่าววัคซีนใช้ไม่ได้ผลในกลุ่มผู้สูงอายุ อ้างอังกฤษ อนุมัติประเทศแรกฉีดให้กลุ่มเสี่ยง

26 มกราคม 2564, 09:48น.


          กรณีหนังสือพิมพ์ ฮานเดลสบลัตต์ (Handelsblatt) และหนังสือพิมพ์ บิลด์(Bild)ของเยอรมนี รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ว่า วัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของอังกฤษว่าวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ในอัตราที่ต่ำ คือ ระหว่างร้อยละ 8-10 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปว่าเจ้าหน้าที่หลายคนของเยอรมนีหวั่นเกรงว่า องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป(EMA) หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบยาของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ที่จะประชุมเรื่องวัคซีนในสัปดาห์นี้อาจจะไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ



          บริษัทแอสตราเซเนกา ปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรคของอังกฤษ สนับสนุนให้มีการใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยให้เหตุผลว่าผลวิเคราะห์เลือดของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีน พบว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น



          อังกฤษเป็นประเทศแรกที่อนุมัติวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยไม่มีข้อกำหนดห้ามใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และเน้นฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข



          ทั้งนี้ ในระยะแรกๆ แอสตราเซเนกา เน้นการวิจัยวัคซีนส่วนใหญ่กับกลุ่มผู้มีอายุไม่เกิน 55 ปี เนื่องจากต้องการจะใช้ป้องกันโรคโควิด-19 กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคนงานอาชีพอื่นๆที่มีความเสี่ยง เช่น เจ้าหน้าที่สายการบิน แต่การวิจัยระยะหลังๆ ทีมวิจัยของแอสตราเซเนกาได้ระดมอาสาสมัครกลุ่มผู้มีอายุเกิน 55 ปี เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผลการวิจัยวัคซีนมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ ใช้ป้องกันโรคได้กับทุกกลุ่มอายุ



Cr: Reuters, The Straits Times

ข่าวทั้งหมด

X