โมเดอร์นา ชี้ว่า วัคซีนต้านโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้ แต่ได้ผลกับสายพันธุ์อังกฤษมากกว่า
นักวิทยาศาสตร์ของบริษัท โมเดอร์นา ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผลการทดสอบในห้องทดลองเบื้องต้นชี้ว่า วัคซีนของบริษัทดูเหมือนจะมีผลต้านทานไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดที่พบในอังกฤษหรือในแอฟริกาใต้ได้
ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวกำลังระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ ขณะที่วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบัน ออกแบบมาเพื่อรับมือกับไวรัสรุ่นก่อน แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัคซีนเหล่านี้ยังใช้ได้ผลกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่แม้จะไม่เต็มประสิทธิภาพ
การวิจัยของบริษัทโมเดอร์นา นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบตัวอย่างเลือดที่เก็บจากคน 8 คน ที่ได้รับวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา ครบ 2 โดสแล้ว และพบว่า ตัวอย่างเลือดที่ได้รับโควิด-19 พันธุ์ใหม่ สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมามากพอที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านไวรัส แต่มีปฏิกิริยากับสายพันธุ์อังกฤษมากกว่าสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น ยังไม่ผ่านกระบวนการตรวจทานผลงานโดยผู้เชี่ยวชาญกลุ่มอื่นๆ และจำเป็นต้องมีการยืนยันผลลัพธ์ว่าเป็นความจริง จากคนที่ได้รับวัคซีนไปแล้วด้วย
ขณะนี้ บริษัทโมเดอร์นา กำลังศึกษาว่าการให้วัคซีนโดสที่ 3 หรือการออกแบบวัคซีนใหม่ เพื่อให้เข้ากับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จะมีประโยชน์มากกว่ากัน
กังวลมากขึ้น! แพ็คเกจเยียวยาโควิด-19 ของ ‘ไบเดน’ อาจะต้องลดวงเงินลง
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ต่อสายตรงพูดคุยกับสมาชิกสภาคองเกรสทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต เกี่ยวกับข้อเสนอแพ็คเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากพรรครีพับลิกัน มองว่า เป็นการออกมาตรการที่มีวงเงินมากเกินไป แม้จะมีความพยายามทำความเข้าใจกับสมาชิกสภาคองเกรส แต่นักลงทุนมีความกังวลว่าประธานาธิบดีไบเดน อาจต้องปรับลดวงเงินในแพ็คเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ เพื่อให้ผ่านการอนุมัติ
ความกังวลมีขึ้นหลังจากสมาชิกสภาคองเกรสหลายคนทั้งจากสองพรรค วิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยเรื่องความจำเป็นในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินดังกล่าว นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังชะลอการลงทุน จับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่างๆ และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์ด้วย ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันจันทร์ 25 ม.ค.64 ลดลง
-ดาวโจนส์ ลดลง 36.98 จุด หรือร้อยละ 0.12 ปิดที่ 30,960.00 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.89 จุด หรือร้อยละ 0.36 ปิดที่ 3,855.36 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 92.93 จุด หรือร้อยละ 0.69 ปิดที่ 13,635.99 จุด
ด้านราคาทองคำ ปิดตลาดปรับลดเล็กน้อย หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า ก่อนการประชุมเฟด
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ.64 ลดลง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,855.20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.พ.64 เพิ่มขึ้น 50 เซ็นต์ ปิดที่ 52.77 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมี.ค.64 เพิ่มขึ้น 47 เซ็นต์ ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
สภาสหรัฐฯ เตรียมยื่นญัตติถอดถอน ‘ทรัมป์’ ให้วุฒิสภาพิจารณา
เช้านี้ตามเวลาในประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยื่นญัตติถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าสู่การพิจารณาไต่สวนของวุฒิสภา ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 64 เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
วุฒิสภาจะเริ่มกระบวนการพิจารณาไต่สวนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ในวันที่ 9 ก.พ.64 เพื่อให้เวลาเตรียมตัวต่อสู้คดีถอดถอน
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้ง และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนหลังจากพ้นจากตำแหน่งแล้ว
หากวุฒิสภาสหรัฐฯมีมติว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา ก็จะส่งผลให้เขาไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกต่อไป
วุฒิฯสหรัฐ เตรียมไฟเขียว "เยลเลน" เป็นรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ
นอกจากนี้เช้าวันนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติให้การรับรองการแต่งตั้งนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานเฟด เป็นรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯคนใหม่ ตามที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีไบเดน หากได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐฯ นางเยลเลนจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ คณะกรรมาธิการการเงินประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ 26-0 เสียงในการแต่งตั้งนางเยลเลนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯคนใหม่ และได้มีการส่งเรื่องเพื่อให้วุฒิสภาเต็มคณะลงมติ
รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มคลายล็อกดาวน์ ทยอยเปิดเมือง
สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโก โครนิเคิล รายงานว่า สำนักงานของนายแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งให้อยู่บ้าน หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐ เปิดเผยเมื่อต้นเดือนว่า จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณว่าการควบคุมได้ผล หลังจากที่กลับมาใช้คำสั่งอยู่บ้านอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่เดือนธ.ค.63 เพื่อแก้ไขวิกฤตโรงพยาบาลแออัด
เทศมณฑลต่าง ๆ ในรัฐ จะกลับไปใช้มาตรการทยอยเปิดเมืองเป็นลำดับชั้น เริ่มจากสีเหลืองที่ให้ธุรกิจเกือบทั้งหมดให้บริการภายในอาคาร ไปจนถึงสีส้ม สีแดง และสีม่วง พื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้ลำดับชั้นสีม่วงที่อนุญาตให้สถานบริการส่วนบุคคล เช่น ร้านทำผม เปิดได้อีกครั้งแต่ต้องมีมาตรการป้องกัน ส่วนร้านอาหารเปิดได้เฉพาะบริการกลางแจ้ง
รัฐแคลิฟอร์เนียมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 หรือโควิด-19 สะสมกว่า 3,000,000 คน เสียชีวิตกว่า 36,700 ราย จากทั้งประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 25,700,000 คน เสียชีวิตกว่า 429,000 ราย
จีน จัดสรรงบฯเกือบ 500,000 ล้านบาท ช่วยปชช.ยากจน
เจ้าหน้าที่ทางการจีน เปิดเผยว่า จีนได้จัดสรรงบประมาณกลางกว่า 100,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 481,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าครองชีพพื้นฐานในลักษณะเบี้ยยังชีพให้ประชาชนที่ยากจนให้ทันก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากมีความยากลำบากจากการติดเชื้อโควิด-19 ขณะเดียวกัน เงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยทำให้คนยากจนที่มีรายได้ต่ำทางภาคเหนือของประเทศรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้
เงินอุดหนุนเพื่อรับมืออากาศหนาวเย็นกว่า 1,800 ล้านหยวน หรือกว่า 8,000 ล้านบาท จะมีการจัดสรรกระจายให้พื้นที่ในภูมิภาคระดับมณฑลทางตอนเหนือของจีน ซึ่งรวมถึงเฮยหลงเจียงและเหลียวหนิงด้วย