นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต แห่งอิตาลีกล่าวว่าความล่าช้าของการจัดส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ และบริษัทแอสตราเซเนกาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยทั้ง 2 บริษัทได้แจ้งต่อสหภาพยุโรปว่า จะจัดส่งวัคซีนล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการผลิต แต่นายกรัฐมนตรีคอนเตกล่าวหาทั้ง 2 บริษัทว่าละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรง และเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสุขภาพของอิตาลีเตือนว่าจะต้องมีการทบทวนโครงการฉีดวัคซีนอีกครั้ง หากมีจำนวนวัคซีนสำรองลดลง
สหภาพยุโรป ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์แล้วและคาดว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาได้ในวันที่ 29 มกราคมนี้ แต่เมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) แอสตราเซเนกาแจ้งว่า จะจัดส่งวัคซีนตามกำหนดที่ตกลงกันไว้แต่จะมีจำนวนน้อยกว่าข้อตกลง คือประมาณ 80 ล้านโดสให้กับ 27 ประเทศภายในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่งวัตถุดิบจากภายในกลุ่มประเทศยุโรป
ส่วนกรณีของไฟเซอร์ ซึ่งสหภาพยุโรปได้สั่งซื้อวัคซีนจำนวน 600 ล้านโดส บริษัทได้แจ้งต่อสหภาพยุโรปว่าจะลดปริมาณวัคซีนที่จะส่งมอบให้กับยุโรปเนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้ในสัปดาห์ที่แล้วบริษัทส่งมอบวัคซีนได้น้อยกว่าที่มีการวางแผนไว้ถึงร้อยละ 29 แต่คาดว่าจะกลับสู่ระดับที่ตกลงกันไว้ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ประกาศของทั้ง 2 บริษัททำให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปไม่พอใจเป็นอย่างมาก และกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้บริษัทส่งมอบวัคซีนตามข้อตกลงที่ทำไว้
ส่วนที่ออสเตรีย นายรูดอล์ฟ แอนโชเบอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดเผยว่า นี่คือข่าวร้าย ความล่าช้าที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง โดยจะได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา 600,000 โดสภายในสิ้นเดือนมีนาคม ส่วนที่เหลืออีก 1,400,000 โดสจะมีการส่งมอบในเดือนเมษายน
...