นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี อำนวยการสถาบันแห่งชาติด้านโรคติดเชื้อและภูมิแพ้ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมากยังมีความกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยแม้ว่าจะได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว และพบว่าผู้ที่หายป่วยแล้วยังมีอาการบางอย่างคงอยู่ อาทิ ความเหนื่อยล้า อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อุณหภูมิร่างกายผิดปกติ และ อาการสมองล้า หรือที่ถูกเรียกว่า “หมอกในสมอง” (Brain Fog) ความจำสั้น หงุดหงิดง่าย จนไม่อยากทำงาน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี อธิบายว่า ในขณะที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นตัวและกลับมามีสุขภาพปกติ แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ยังมีอาการเหนื่อยล้า หายใจถี่ ไอ ปวดข้อและเจ็บหน้าอกเป็นอาการระยะยาว ส่วนกลุ่มที่ต้องรักษาอาการเป็นเวลานาน จะมีภาวะซึมเศร้าและปวดศีรษะ
นอกจากนี้ ซีดีซี ยังรายงานด้วยว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชนิดสายพันธุ์สหราชอาณาจักร (B.1.1.7) จำนวน 195 คนใน 22 รัฐ โดยส่วนใหญ่คือ 72 คนอยู่ในแคลิฟอร์เนีย อย่างไรก็ตาม ซีดีซี คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงจะสูงกว่าที่มีการรายงาน เนื่องจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์จะใช้การสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อบางรายเท่านั้น
ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันศุกร์ (22 ม.ค.) สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 186,891 คนและผู้เสียชีวิต 3,655 รายทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 24,818,779 คนและเสียชีวิต 414,004 ราย มีการแจกจ่ายวัคซีนแล้วอย่างน้อย 39,892,400 โดส
นักระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า แม้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯจะลดลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงไปด้วย แต่การที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้ง่ายกว่าเดิม การทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กำลังเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเวลานี้จึงเหมือนกับการแข่งขัน ระหว่างการฉีดวัคซีนกับไวรัส
....