กรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737-500 ของสายการบินศรีวิจายาแอร์ของอินโดนีเซีย เที่ยวบิน SJ182 ประสบอุบัติเหตุตกในทะเลชวา เพียง 4 นาทีหลังบินจากสนามบินกรุงจาการ์ตา เมื่อเวลา 14.36 น.ของเมื่อวันเสาร์ 9 มกราคม มุ่งหน้ายังเมืองปนตีอานัก จังหวัดกาลิมันตันตะวันตก คนบนเครื่องเสียชีวิต 62 ราย(ผู้โดยสาร 50 คน,ลูกเรือ 12 คน) เป็นชาวอินโดนีเซียทั้งหมด นายนูร์จาโย อูโตโม พนักงานสอบสวนจากคณะกรรมการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติ (KNKT)ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบการสอบสวนเรื่องนี้เริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นระบบควบคุมอัตโนมัติ(autothrottle)ขัดข้อง หลังพบรายงานบันทึกการตรวจสภาพเครื่องบินโดยนายช่างเครื่องบิน 2-3 วันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ว่าเครื่องบินประสบปัญหานี้ด้วย
แต่ทีมสอบสวนยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ระบบเกิดปัญหาขัดข้องอย่างไร อีกทั้งยังไม่ทราบชัดเจนว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากระบบควบคุมอัตโนมัติมีปัญหาขัดข้องหรือไม่ จนกว่าทีมนักประดาน้ำจะพบกล่องดำตัวที่สอง หรือ กล่องดำที่บันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบิน จะช่วยให้ทีมสอบสวนทราบการพูดคุยระหว่างนักบินทั้งสองว่า มีปัญหาเรื่องระบบควบคุมอัตโนมัติขณะขับเครื่องบินหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทีมนักประดาน้ำของกองทัพเรืออยู่ระหว่างค้นหากล่องดำตัวนี้
ส่วนกล่องดำอีกตัวแรก ซึ่งบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบิน ทีมค้นหาพบและเก็บกู้ขึ้นมาจากทะเลชวาเมื่อวันที่ 12 มกราคม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างอ่านข้อมูลจากกล่องดำ ทีมสอบสวนคาดว่าจะสามารถจัดทำรายงานเบื้องต้นเรื่องสาเหตุของอุบัติเหตุเสร็จภายใน 30 วันหลังเกิดอุบัติเหตุ สอดคล้องกับมาตรฐานการบินระหว่างประเทศ สำหรับเครื่องบินดังกล่าวใช้งานมา 26 ปี ผ่านการตรวจสภาพเครื่องบินเมื่อเดือนธันวาคม 2563 หลังหยุดบินมาพักใหญ่ๆจากการล็อกดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Cr: BBC