ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป หรือ อีซีดีซี เผยแพร่รายงานเตือนว่า ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ที่ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมทำให้วิกฤตโควิด-19 ในกลุ่มประเทศสมาชิกมีความรุนแรงมากขึ้น มีผู้ติดเชื้อที่มีอาการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตมากขึ้นในทุกกลุ่มอายุทั่วเขตเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง จึงเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเร่งการฉีดวัคซีนโควิดให้กับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง กับต้องมีการดำเนินมาตรการป้องกันโรคร่วมด้วย อาทิ การรักษาระยะห่าง การเฝ้าระวัง การติดตามผู้ติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ และการกักกันอย่างเข้มงวดเพื่อลดการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
นางแอนเดรีย แอมมอน ผู้อำนวยอีซีดีซี กล่าวว่า ไวรัสโควิดที่สร้างความกังวลในขณะนี้มี 3 รูปแบบคือ
สายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร (B.1.1.7 หรือ VOC 202012/01) ซึ่งทำให้สถานการณ์โควิด-19 มีความรุนแรงขึ้นในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์
สายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ (501Y.V2 หรือ B.1.351) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อใน 10 ประเทศของยุโรป
และสายพันธุ์ที่มีการพบครั้งแรกในบราซิล (P1) ซึ่งพบในกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้ายุโรปจำนวนหนึ่ง
ด้านทางการสาธารณรัฐเช็ก ได้ประกาศขยายเวลาบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินในระดับประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดกฎหมาย มาตรการและข้อจำกัดในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้โดยที่ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน ขณะนี้สาธารณรัฐเช็กยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดระดับ 5 เป็นระดับสูงที่สุดในระดับการประเมินความเสี่ยงโควิด-19 ร้านอาหาร ร้านค้าที่ไม่จำเป็นยังต้องปิดทำการ โรงเรียนส่วนใหญ่หยุดเรียน และใช้มาตรการเคอร์ฟิว
สำหรับจำนวนผู้ป่วยสะสมของสาธารณรัฐเช็กมีจำนวนเกือบ 920,000 คนและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 15,000 ราย
....