ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564
อย.ขึ้นทะเบียนแล้ว วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา
การขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ได้มีการลงนามขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา ล็อตที่ผลิตในประเทศอิตาลีหลังจากทางบริษัทส่งเอกสารเกือบ 10,000 หน้า มาขอขึ้นทะเบียนในไทย เพื่อใช้ฉีดภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่ 22 ธ.ค. 63 โดยมีการพิจารณาถึงเรื่องประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ
วัคซีนดังกล่าวจะถึงไทยในเดือน ก.พ. จำนวน 50,000 โดส สำหรับใบอนุญาตการนำเข้า และ ทะเบียนวัคซีนมีระยะเวลา 1 ปี เมื่อวัคซีนถึงไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะดำเนินการสุ่มตรวจวัคซีนว่ามีคุณภาพตามที่บริษัทกำหนดไว้หรือไม่ ก่อนนำไปใช้ฉีดให้กับประชาชน จากนั้นบริษัทจะทยอยส่งวัคซีนที่เหลืออีก 150,000 โดส ตามมาภายในเดือนมี.ค. - เม.ย. สำหรับการผลิตวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาในไทยที่ร่วมกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ นั้น จะมีการขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตในไทย ซึ่งจะมีผลให้สามารถใช้ได้ในประเทศไทยทันที ในเดือน พ.ค.
เปิดหนังสือแสดงเจตจำนง ผลิต-จัดสรรวัคซีน แอสตราเซเนกา กับสยามไบโอไซเอนซ์
กระทรวงสาธารณสุข สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี และแอสตราเซเนกา บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 AZD1222 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ในวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ในหนังสือแสดงเจตจำนงระบุว่าทุกฝ่ายตกลงจะทำงานร่วมกัน เพื่อเสริมศักยภาพด้านกำลังการผลิตของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ให้พร้อมรองรับการผลิตวัคซีนจำนวนมากเพื่อให้ประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมและทันเวลา ทั้งนี้ แอสตราเซเนกา จะจัดสรรวัคซีนวิจัยดังกล่าวโดยไม่มุ่งหวังผลกำไรในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมกันนี้จะถ่ายทอดเทคโนโลยีและร่วมมือกับสยามไบโอไซเอนซ์ ในการติดตั้งกระบวนการผลิต
ความร่วมมือดังกล่าวเกิดจากการผลักดันโดยกระทรวงสาธารณสุข ที่สร้างความเชื่อมั่นต่อการผลิตในประเทศไทย ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะได้รับวัคซีนวิจัย AZD1222 หลังจากผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด โดยมีเป้าหมายเริ่มจัดสรรวัคซีนสำหรับประชาชนชาวไทยได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 หนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าวลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ที่กรุงเทพฯ และ มร. เจมส์ ทีก ประธานประจำประเทศไทย แอสตราเซเนกา ผ่านการประชุมออนไลน์จากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมี นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน มร. ไบรอัน เดวิดสัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย มร. นิโคลัส วีคส์ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย และ มิส โจ เฟง รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชีย แอสตราเซเนกา ร่วมเป็นสักขีพยาน
พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์การผลิตของบริษัทฯ มีเครื่องจักรที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับผลิตยารักษาโรคมะเร็งและโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เครื่องจักรดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้ผลิตวัคซีนวิจัย AZD1222 เพื่อป้องกันโควิด-19 จากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดและแอสตราเซเนกา โดยหลังจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากแอสตราเซเนการวมทั้งขั้นตอนของอย. คาดว่าวัคซีนชุดแรกจะพร้อมใช้ในกลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนดังกล่าวได้สำเร็จเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้คนไทยและประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ใช้วัคซีนเร็วที่สุด
มิส โจ เฟง รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชีย แอสตราเซเนกา กล่าวว่า การเปิดกว้างให้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม และทันเวลา เป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 วันนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายดังกล่าว ความเป็นผู้นำและการสนับสนุนของรัฐบาลไทย ความร่วมมือของเอสซีจี และความเชี่ยวชาญด้านการผลิตระดับโลกของสยามไบโอไซเอนซ์ สร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลิตวัคซีน AZD1222 รองรับทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนแบบนี้เป็นทางเดียวที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดได้ และบริษัทฯ จะเสริมสร้างความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุขต่อไป
ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี กับแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด นับเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่รัฐบาลประเทศต่าง ๆ องค์กรด้านสาธารณสุขชั้นนำของโลก อาทิ องค์การอนามัยโลก กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (GAVI) และผู้ผลิตวัคซีนทั่วโลก ผนึกกำลังเพื่อช่วยกันกระจายวัคซีนวิจัยให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลังจากการทดลองทางคลินิกประสบความสำเร็จและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องได้รับรองวัคซีนวิจัยดังกล่าวแล้ว ทุกฝ่ายที่มาร่วมมือครั้งนี้มุ่งหวังให้การใช้วัคซีนวิจัยมีความปลอดภัยสูงสุด โดย แอสตราเซเนกาและ มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมขั้นสูงสุดภายใต้หลักปฏิบัติอันเป็นที่ยอมรับทางวิทยาศาสตร์ และทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เชี่ยวชาญ อาทิ หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (MHRA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทยเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
รัฐบาลสั่ง เก็บข้อมูล'เฟคนิวส์' ส่งฝ่ายกม.ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีกับข่าวที่บิดเบือน ที่มีการเผยแพร่ทั้งในสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย และเมื่อวันที่ 20 ม.ค.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นแจ้งความเอาผิดมาตรา 112 และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีไลฟ์สดพาดพิงสถาบันฯ โจมตีวัคซีนพระราชทานเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการกล่าวหาและมีข้อมูลอันเป็นเท็จ
ล่าสุดวันนี้นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่นายกฯ สั่งการเฉพาะกิจ เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาและติดตามกรณีที่มีบุคคล กระบวนการ สร้างและเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง การใส่ร้ายป้ายสี จาบจ้วงหมิ่นสถาบันฯ รวมถึงการบิดเบือนข้อมูล เพื่อดูว่า รัฐบาลจะมีการแนวทางดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งการเคลื่อนไหวในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งพบว่าช่วงที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวหลายกรณี โดยนายกฯ สั่งการให้ดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด และส่งข้อมูลให้นายกฯ อย่างต่อเนื่อง และเร่งติดตามคดีที่มีความล่าช้าด้วย
สมุทรสาคร เตรียม ปลดล็อก รายอำเภอเพิ่ม หลังคัดกรองเชิงรุก ไม่พบติดเชื้อ
นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสาคร เตรียมจะพิจารณาปลดล็อกมาตรการเป็นรายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างครบถ้วนและไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว หากผลการประเมินจากสาธารณสุขพบว่าสถานการณ์ในพื้นที่นั้นมีความปลอดภัยจากโควิด-19 เช่น พื้นที่ อ.บ้านแพ้ว ที่มีคนติดเชื้อน้อยมาก ส่วน 8 ตำบล เช่น ท่าทราย และมหาชัย ถ้ายอดยังเยอะ ต้องคุมให้แน่นหนาก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปอีก
กทม.เร่งตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง ไม่พบระบาดวงกว้างเหมือนสมุทรสาคร
การตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุขได้เร่งตรวจเชิงรุกฯ ไปแล้วกว่า 22,000 ราย ซึ่งการระบาดของกรุงเทพมหานคร เป็นการระบาดต่อเนื่องจากพื้นที่อื่น ทั้งจากตลาด สถานบันเทิง ด้วยลักษณะของประชาชนในเมืองหลวงที่มีการเคลื่อนย้ายประชาชนมากจึงพบการระบาดได้ประปราย แต่ยังไม่พบการระบาดใหญ่ที่เป็นวงกว้าง เช่น กรณีจังหวัดสมุทรสาคร
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร ย้ำถึงกระบวนการสืบสวนโรค กรุงเทพมหานครจะเร่งสอบสวนโรคและเปิดเผยไทม์ไลน์ให้ได้ทุกรายและพยายามให้ได้เร็วที่สุดมากที่สุด ส่วนมาตรการผ่อนคลาย 13 กิจการ และกิจกรรมนั้น หากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) มีคำสั่งให้ผ่อนปรนมาตรการเพิ่มเติม กรุงเทพมหานครพร้อมดำเนินการในทิศทางเดียวกัน
‘กก.สมานฉันท์'ประชุม25ม.ค. เลือกผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน
นายคุณวุฒิ ตันตระกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสมานฉันท์ กล่าวถึงความคืบหน้าของการทำงาน ว่าหลังจากมติที่ประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ เลือก นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกรรมการสมานฉันท์ และประธานรัฐสภา ได้ลงนามในประกาศรัฐสภา แต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ในการทำงาน ด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ จำนวน 4 คน ซึ่งคณะกรรมการฯ มีหน้าที่คัดเลือกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ โดยกรรมการแต่ละคนจะต้องพิจารณาหารายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิตามแนวทาง คือ ผู้หญิงไม่น้อยกว่า 2 คน และสื่อมวลชน 1 คน พร้อมมอบหมายให้กรรมการหาแนวทางในการได้มาซึ่งกรรมการสมานฉันท์ในสัดส่วนผู้แทนฝ่ายผู้ชุมนุมและผู้แทนฝ่ายอื่น ฝ่ายละ 2 คน มานำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 419 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา
ส่วนกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยังไม่ได้เสนอรายชื่อตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ นั้น นายคุณวุฒิ กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ เป็นการทำงานในลักษณะที่แสวงหาความคิดเห็น และความร่วมมือจากทุกฝ่าย หาก ส.ส.ฝ่ายค้าน จะเสนอรายชื่อตัวแทนมาเป็นกรรมการสมานฉันท์ ก็ยินดีที่จะร่วมกันทำงาน เพื่อระดมความคิดเห็นในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์
ปิดตลาดหุ้นไทยลบ 2.21จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่1,513.51 จุด ลดลง 2.21 จุด มูลค่าการซื้อขาย 98,996.83 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายเผชิญแรงทำกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กออกมาหลังจากที่ได้มีการเก็งกำไรอย่างไร้ทิศทางก่อนหน้านี้ แล้วเริ่มกลับมาให้ความมั่นใจหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ออกมาดีกว่าคาด ทำให้มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะหันเข้าไปที่หุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ และมีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 28,756.86 จุด เพิ่มขึ้น 233.60 จุด
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังฮั่งเส็งปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเนื่องจาก ได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 29,927.76 จุด ลดลง 34.71 จุด
ฝากขังโมเดลลิ่งอนาจารเด็ก คัดค้านประกันตัว
หลังสภ.หาดใหญ่ จับกุมนายพงษ์ศักดิ์ มั่นคงวิวัฒน์ หรือ “พงษ์” อายุ 54 ปี โมเดลลิ่งที่กระทำอนาจารเด็กสาว ซึ่งเข้าไปเทสต์หน้ากล้องและลองชุด รวมยังถ่ายภาพนิ่งและถ่ายคลิปเอาไว้ โดยถูกจับกุมได้ที่บริษัท ดราม่าเอ็นเตอร์เม้นท์ ย่านถนนโชติวิระยะกุล 1 อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งกรณีดังกล่าว “บุ๋ม ปนัดดา” ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีคนในวงการบันเทิงเกี่ยวข้องด้วย ล่าสุดวันนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมควบคุมตัวนายพงษ์ศักดิ์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดสงขลาฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว โดยมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 กระทง คือ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก นอกเหนือจาก 2 ข้อหาแรก คือพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองฯ สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหา นายพงษ์ศักดิ์ ยังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ขณะที่หนึ่งในผู้ปกครองซึ่งเคยส่งลูกสาวอายุประมาณ 5 ขวบไปเรียนกับนายพงษ์ศักดิ์ เมื่อ 3-4 ปีก่อน บอกว่า ดูจากพฤติกรรมของนายพงษ์ศักดิ์ คิดว่าเป็นกลุ่มรักร่วมเพศจึงไม่ได้ผิดสังเกต แต่พบพฤติกรรมถึงเนื้อถึงตัวเด็ก และอีกทั้งบางครั้งเคยเห็นพาเด็กผู้หญิงนั่งจักรยานยนต์ด้านหน้า ทั้งที่เบาะหลังยังว่าง
นายโสภณ ทิพย์บำรุง อธิบดีอัยการภาค 9 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 และคณะทำงานอัยการภาค 9 ร่วมแถลงว่า ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 14ม.ค.64 เพราะเหยื่อต้องการได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วนหากส่งเรื่องยังหน่วยงานอื่นอาจจะล่าช้า กระทั่งได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาในวันเดียวกัน โดยติดตามหาผู้ปกครองของเหยื่อได้รายหนึ่ง จากเบาะแสที่พอมีรวม 3 ราย และนำไปแจ้งความ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกันเช่นกัน ก่อนที่จะมีการรวบรวบพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับโมเดลลิ่งได้วันที่ 19 ม.ค. 64 และบุกเข้าจับตัวทันทีที่บริษัทของผู้ต้องหาใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลางทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเด็กสาว ที่อยู่ในมือถือและคอมพิวเตอร์จำนวนมาก ซึ่งทุกขึ้นตอนต้องทำด้วยความรวดเร็ว และหากไหวตัวก็อาจจะหลบหนีหรือทำลายหลักฐานทิ้ง
อธิบดีอัยการภาค 9 เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้สำนักงานอัยการภาค 9 หลังได้รับเรื่องก็เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนทุกขึ้นตอน และหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงคือ การเข้าไปร่วมสอบสวนผู้เสียหายร่วมกับจิตแพทย์ ทีมสหวิชาชีพ และ พนักงานสอบสวน เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งค่อนข้างส่งผลกระทบต่อจิตใจ และต้องปิดข้อมูลผู้เสียหาย และผู้ปกครอง เอาไว้เป็นความลับ ส่วนในทางการทำคดี จะเป็นหน้าที่ของทางตำรวจในการขยายผลจากพยานหลักฐานที่มี และหลังจากนั้นทางตำรวจก็จะต้องส่งสำนวนคดีมายังทางอัยการอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น จากหลักฐานที่พบนั้นเหยื่อทั้งหมด จะเป็นเด็กผู้หญิงและอายุระหว่าง 10-14 ปี และมีภาพหลายร้อยใบที่เป็นแนวลามกอนาจาร และบางส่วนก็ถ่ายให้เห็นเฉพาะอวัยวะ ไม่เห็นใบหน้า ซึ่งยากที่จะรู้ว่าเหยื่อเป็นใคร อยู่ที่ไหน และยากต่อการเข้าไปช่วยเหลือ
จีนหวัง ปธน.ไบเดนของสหรัฐฯปรับปรุงสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนให้ดีขึ้น หลังยุคของทรัมป์
นางหัว ชุน อิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯในโอกาสรับตำแหน่งเมื่อวานนี้ พร้อมขอให้นายไบเดน ปรับปรุงความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนให้ดีขึ้น คาดว่า ความร่วมมือจากทั้งสองฝ่ายจะช่วยขับเคลื่อนสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนให้ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตั้งข้อสังเกตว่า นายไบเดนใช้คำว่า ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน(unity)ซ้ำกันหลายครั้งระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ในโอกาสรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวาน ซึ่งเธอเห็นว่า คำๆนี้เป็นคำที่สำคัญในเรื่องการปรับปรุงสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนให้ดีขึ้น
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังแสดงความชื่นชมที่รัฐบาลของนายไบเดนจะกลับมาเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกองค์การอนามัยโลก(WHO) และกลับเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในสนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก เนื่องจากนายไบเดนต้องการจะนำสหรัฐฯกลับเข้ามาทำหน้าที่สำคัญๆในเวทีโลกอีกครั้ง ทั้งนี้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศถอนชื่อสหรัฐฯออกจากสนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายไบเดนจะยังมีจุดยืนแข็งกร้าวต่อประเทศจีนต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯให้คำมั่นจะให้ความร่วมมือกับองค์กรระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นสัญญาณในเชิงบวกต่อประเทศจีน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการคลี่คลายปัญหา
ที่ผ่านมา สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับประเทศจีนตึงเครียดมาอย่างต่อเนื่องในยุคนายทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศ ประกาศสงครามการค้ากับประเทศจีน ทำให้ต่างฝ่ายต่างขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ ซึ่งกันและกันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ลูกในกรุงแบกแดด อิรัก มีคนเสียชีวิต 20 ราย
โฆษกกองทัพอิรักเปิดเผยว่า เหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ลูกที่ตลาดขายเสื้อผ้าใกล้จัตุรัสทายารัน ในเขตบับ อัลชาร์กี ใจกลางกรุงแบกแดดในวันนี้ มีคนเสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 40 คน โดยคนร้ายลงมือก่อเหตุโจมตี หลังถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิรักติดตามจับกุม นับเป็นเหตุโจมตีแบบฆ่าตัวตายเป็นครั้งแรกในอิรักนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561
โดยคนร้ายคนแรกเข้าไปยังตลาดนั้นและทำทีว่ามีอาการป่วย ร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้คนในตลาดเข้าไปยืนมุงดูเขา ก่อนที่คนร้ายจะกดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ต่อมา คนร้ายคนที่สองขับรถจักรยานยนต์มายังตลาดดังกล่าว ก่อนลงมือกดระเบิดเสื้อกั๊กฆ่าตัวตาย โดยเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสองครั้งในลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในอิรัก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมชีอะห์กับชาวสุหนี่ในอิรักระหว่างปี 2548-2550
เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ แต่น่าสังเกตว่า กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เคยก่อเหตุโจมตีในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ในปัจจุบัน ยังมีสมาชิกกลุ่มไอเอสกลุ่มเล็กๆในอิรักยังคงยึดบางท้องที่ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ซึ่งมีประชากรอาศัยไม่มาก