การจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ช่วงเย็นแบบนี้ ปรากฎว่าถนนค่อนข้างโล่ง รถเคลื่อนตัวได้ดี ขณะเดียวกันก็เริ่มมีประชาชนใช้บริการรถโดยสารประจำทาง หรือ รถเมล์ กันอย่างคึกคัก เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จึงลงพื้นที่มากวดขันรถโดยสารที่กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งกำชับเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขด้วย
นายสมบัติ กลิ่นเอี่ยม เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงานขนส่ง กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่ามีรถเมล์กระทำผิด 3 คัน คือ สภาพรถไม่สมบูรณ์ กระจกหน้ารถแตกร้าว 1 คัน และอีก 2 คัน ติดตั้งโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถเมล์ เพราะบางครั้งการที่สภาพรถไม่สมบูรณ์ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้โดยสารได้ เช่น กระจกแตก หรือเบาะนั่งชำรุด เจ้าหน้าที่จึงต้องขึ้นไปตรวจตราบนรถ และกำชับพนักงานขับให้แจ้งบริษัทเจ้าของรถ อย่าละเลยในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันก็ยังเชิญพนักงานขับรถร่วมบริการ มาตักเตือนเรื่องการแต่งกายไม่สุภาพ เพราะมักพบว่าหลายคน สวมเสื้อ-กางเกงไม่สุภาพบ้าง ใส่รองเท้าแตะขับรถบ้าง เจ้าหน้าที่บอกว่า ความผิดข้อนี้ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ต้องถูกบันทึกในประวัติการขับขี่ และต้องเข้ารับการอบรมเรื่องมารยาทในการขับรถให้บริการอีก 3 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่า โทษปรับค่อนข้างหนักและยังถูกบันทึกประวัติด้วย จึงขอให้พนักงานขับรถและพนักงานเก็บเงินทุกคน แต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยเมื่อให้บริการ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร
ส่วนเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าที่ก็ยังกำชับว่าอย่าการ์ดตก ขอให้รถทุกคันมีเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการผู้โดยสาร ต้องเข้มงวดให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย ตัวพนักงานขับรถและพนักงานเก็บเงินก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องเช่นกัน และหมั่นทำความสะอาดรถ บริเวณจุดสัมผัสร่วมบ่อยๆ
จากการสำรวจวันนี้ ต้องชื่นชมรถเมล์ร่วมสาย 28 ที่วิ่งระหว่างสายใต้-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พนักงานเก็บเงินจะฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดเบาะนั่ง ราวจับ และปุ่มกดกริ่งทุกครั้งที่รถวิ่งเทียบท่าสายใต้และอนุสาวรีย์ชัย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานประจำรถด้วย
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังแนะนำผู้โดยสารให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการรถผิดกฎหมาย เช่นรถจักรยานยนต์รับจ้างป้ายดำ ป้องกันการถูกเรียกเก็บค่าโดยสารแพงเกินจริง