*เมืองไทยวันนี้ 7.30 น.*

เช้าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมพิธีวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 105 ปี ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจคือ กระทรวงคมนาคม เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่บางซื่อ ในท้องที่ อ.เมืองนนทบุรี บางบัวทอง บางใหญ่ จ.นนทบุรี และเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พ.ศ.... รวมถึงเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพงบางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ รวม 4 ฉบับ

กระทรวงสาธารณสุข เสนอร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ....

กระทรวงพลังงาน เสนอการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นสูงสุดของระดับหรือตำแหน่ง

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแม่สอด พ.ศ...

และนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอแนวคิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วยการจ่ายเงินให้กับเด็กแรกเกิดจนถึง 1 ปี เดือนละ 400 บาท

เมื่อวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ หารือกับองค์กรภาคธุรกิจ เพื่อหารือประเด็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและข้อเสนอจากภาคเอกชน โดยใช้เวลาหารือนานเกือบ 5 ชั่วโมง ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาและสมาชิกคสช. ต้องการให้ภาคเอกชน เปิดเผยภาพรวมทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีการนำเสนอหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนแล้ว มีเพียงบางอย่างที่ต้องปรับเพิ่ม เช่น การใช้จ่ายภาครัฐ แม้เงินจะลงไปทั้งหมดแล้วแต่อาจติดค้างในระดับจังหวัด หรือหน่วยภาคปฏิบัติ เพราะมีความกังวลเรื่องปัญหาทุจริต นายกรัฐมนตรีจึงขอให้ภาคธุรกิจช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจด้วยกันเอง ซึ่งดีกว่าให้รัฐบาลเป็นผู้พูด

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าเอกชนยอมรับว่าขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวแต่รัฐบาลไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเดินหน้าไปได้หากรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันขับเคลื่อน ซึ่งในการหารือนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการขอให้เอกชนลดราคาสินค้าแต่อย่างใดแต่เป็นการหารือเพื่อรับฟังปัญหาที่เอกชนเห็นว่ายังมีข้อติดขัด นอกจากนี้เอกชนยังขอให้เร่งรัดเพื่อเบิกจ่ายงบประมาณ โดยกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนานั้นได้จ่ายไปแล้ว แต่ที่ล่าช้าอยู่คือการจ่ายเงินชาวสวนยาง นอกจากนี้ยังเสนอให้ดำเนินนโยบายการจัดโซนนิ่งการเพาะปลูกควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพเสริมให้เกษตรกร

ส่วนการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้มีวาระพิจารณารายงานการเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ตามที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานเสนอ

ขณะที่ความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เปิดเผยผลการทำงาน และการจัดทำรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อเสนอไปยังกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ที่จัดทำขึ้นทุกปี และปีที่แล้วได้ลดระดับประเทศไทยจากระดับ 2 เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด ทำให้ไทยได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบ กรณีถูกกีดกันทางการค้า ซึ่ง นายดอน กล่าวว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น มีการกำหนดให้การป้องกันและปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน ทำให้มีผลคืบหน้าที่ดีขึ้นในหลายเรื่อง และล่าสุด สนช. ได้ผ่านความเห็นชอบ พ.ร.บ.ประมง เพื่อคุ้มครองและป้องกันแรงงานประมงให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีผลบังคับใช้ใน 60 วัน พร้อมกำหนดค่าปรับสูงสุดกับผู้กระทำความผิดถึง 30 ล้านบาท มุ่งให้เกิดผลทางจิตวิทยากับกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ และพฤติกรรมของผู้ที่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ให้ตระหนักถึงผลที่ตามมา และไม่ให้หลงเชื่อขบวนการค้ามนุษย์ง่ายๆ  ส่วนการบังคับใช้กฎหมายในปีที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีไปแล้ว 130 คดี ผู้กระทำผิด 104 คน ส่วนของการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 1,600,000 คน ก็จะดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ เพื่อเตรียมพร้อมแรงงานให้เข้าสู่ระบบและลดความเสี่ยงการค้ามนุษย์ต่อไป ซึ่งจากการพูดคุยกับทางการสหรัฐอย่างต่อเนื่อง พบว่าสหรัฐมีท่าทีเชิงบวกต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยมากยิ่งขึ้น เพราะในขณะเดียวกันไทยยังมีความคืบหน้าการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อสอบสวนและดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว

*-*