รมว.คลังแจงรายละเอียดกลุ่มได้รับสิทธิ์ 'เราชนะ'

20 มกราคม 2564, 10:24น.


           หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการ "เราชนะ" ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ด้วยการแจกเงินจำนวน 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็นเงิน 7,000 บาท ให้กับ 3 กลุ่มที่มีสิทธิ์ และมีเงื่อนไขไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ ทำให้มาตรการนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมาก  


          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ จส.100 ระบุว่า เราชนะ เป็นโครงการที่เน้นให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จะมีลักษณะแตกต่างจากโครงการคนละครึ่ง ที่เน้นกระตุ้นการใช้จ่าย  ซึ่งในส่วนของโครงการคนละครึ่งนั้น รัฐจะช่วยออกค่าซื้อสินค้าให้กับผู้มีสิทธิ์ร่วมโครงการครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย มีเงินหมุนเวียนลงไปยังพ่อค้าแม่ค้า  ส่วนโครงการเราชนะ รัฐจะสนับสนุนเงินทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนนำเงินไปใช้จ่ายกับร้านค้าและบริการที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล  เปิดกว้างให้กลุ่มที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนอีกหลายกลุ่ม และเน้นการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน 


          โดยกลุ่มที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราชนะ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังนี้ 


1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบโครงการฯ


2. ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33  


3. ไม่เป็นข้าราชการ , พนักงานราชการ , พนักงาน , ลูกจ้าง , เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง  


4. ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการฯ


5. ไม่เป็นผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ


6. ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ตามฐานข้อมูลที่มีล่าสุด


7. ไม่มีเงินฝากรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ตามฐานข้อมูลที่มีล่าสุด


 




 


          โดยภาครัฐจะคัดกรองจากกลุ่มคนที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว 3 กลุ่ม คือ 


1. กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆทั้งสิ้น ระบบจะโอนเงินเข้าบัตรให้อัตโนมัติ เริ่มได้รับเงินตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.64  แบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์ คือ กลุ่มรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้เพิ่มจากเงินช่วยเหลือปกติอีก  สัปดาห์ละ 675 บาท  และกลุ่มที่รายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้เงินช่วยเหลือเพิ่มสัปดาห์ละ 700 บาท จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าจะครบวงเงิน 


2. กลุ่มที่มีแอปพลิเคชันเป๋าตัง  ซึ่งเคยลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน กลุ่มนี้ก็ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน แต่ระบบจะคัดกรองเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด  และจะส่งปุ่มเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ เป๋าตัง  จากนั้นเงินเข้าในวันที่ 18 ก.พ. โดยสัปดาห์แรกจะเป็นเงินตกเบิกให้ 2,000 บาท  สัปดาห์ต่อไปจะได้ 1,000 บาท  จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าจะครบวงเงิน 


3. กลุ่มที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีแอปฯ เป๋าตังค์ กลุ่มนี้ต้องลงทะเบียนร่วมโครงการ ผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ .com  ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ 2564 ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. เมื่อผ่านการคัดกรองตามเกณฑ์ที่กำหนด  จะต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จึงจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายสัปดาห์ จำนวน 1,000 บาทต่อสัปดาห์  จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าจะครบวงเงิน   โดยกลุ่มนี้ตรวจสอบรายชื่อที่ได้รับสิทธิ์ที่เว็บไซต์ www.เราชนะ .com  ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.64  และจะได้รับเงินตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.64 


 




 


          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในกลุ่มของข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีเงินเดือนน้อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ไปดูว่า จะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรหรือไม่  ส่วนกลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราชนะในครั้งนี้ เนื่องจากมีกองทุนประกันสังคมดูแลอยู่แล้ว ในกรณีที่ตกงาน ก็จะได้รับเงินชดเชยการตกงาน 


          นอกจากนี้ กลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเราชนะ นอกจากผู้ที่มีสิทธิ์ตามที่กำหนดแล้ว กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่อาจเคยเข้าร่วมเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง มาคราวนี้ สามารถสมัครเป็นร้านค้าในโครงการเราชนะได้  ในขณะเดียวกันตัวแม่ค้าเองจะไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการเราชนะ เพื่อรับเงินช่วยเหลือก็ได้  เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้โดยสาร หรือรถแท็กซี่ ที่สามารถสมัครเป็นแท็กซี่ในโครงการเราชนะ เพื่อให้ผู้โดยสารที่มีสิทธิ์ในโครงการมาใช้บริการ และตัวผู้ขับแท็กซี่ก็ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือก็ได้เช่นกัน  รวมทั้งกลุ่มอาชีพอิสระ หรือเกษตรกรที่ไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะ รับเงินช่วยเหลือได้เช่นกัน 


          ส่วนสาเหตุที่เน้นจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านแอปฯ เป๋าตัง  และไม่จ่ายเป็นเงินสด  นายอาคม ระบุว่า เพื่อลดการสัมผัสเงินสด ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19  ลดความแออัดการใช้งานตู้เอทีเอ็ม  ป้องกันการนำเงินไปซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น สุรา หรือเล่นพนัน  รวมทั้งการจ่ายเงินสัปดาห์ละ 1,000 บาท ก็เพื่อให้ประชาชนได้วางแผนการใช้เงินที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ 


          ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต หรือไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้งาน จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังหรือไม่ นายอาคม ระบุว่า จากการตรวจสอบ คนกลุ่มนี้มีไม่มาก จึงอยากขอให้พยายามหาโทรศัพท์ที่ราคาไม่แพงมาใช้ เพราะตอนที่เริ่มโครงการคนละครึ่งก็มีเสียงบ่นเช่นนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายหลายๆ คนก็หามาจนได้  ส่วนกลุ่มที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต เพราะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก็ขอให้ขยับมาลงทะเบียนในพื้นที่ที่มีสัญญาณ ซึ่งรัฐบาลจะกำชับให้ กสทช.ไปตรวจสอบดูแลให้ค่ายมือถือขยายสัญญาณให้ครอบคลุม ส่วนค่าใช้จ่ายในการใช้อินเตอร์เน็ต ก็จะมีกระทรวงดิจิตัลเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดูแลลดค่าใช้จ่ายให้  หากคนเฒ่าคนแก่ลงทะเบียนไม่เป็น ก็ให้ลูกหลานหรือเพื่อนบ้านลงทะเบียนให้ เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของทุกคนแน่นอน  


          ส่วนร้านค้าที่จะเข้าร่วมเป็นร้านค้าในโครงการเราชนะ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นร้านค้าคนละครึ่งมาแล้ว ก็ต้องลงทะเบียนใหม่ เพื่อรับเครื่องหมายอีกอัน ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยทุกร้านสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ ขอเพียงไม่เป็นร้านที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล 


 




 


          ส่วนโครงการคนละครึ่งรอบเก็บตก ที่เปิดให้ลงทะเบียนวันนี้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที สิทธิ์จำนวน 1.34 ล้านสิทธิ์ก็เต็ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า หลังจากนี้ ระบบจะคัดกรองผู้ที่ขาดคุณสมบัติออก คาดว่าจะมีประมาณร้อยละ 10  จากนั้นผู้ที่ได้รับสิทธิ์ จะสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 25 ม.ค.64 เป็นต้นไป  และนับจากนั้น 14 วัน หากยังไม่ใช้เงิน ก็จะถูกตัดสิทธิ์จากโครงการ  ซึ่งก็คาดว่าสิทธิ์ที่เหลือจากทั้งสองกรณีนี้คงไม่มาก จะต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะเปิดรอบเก็บตกอีกหรือไม่  เพื่อไม่ให้มีการแย่งชิงลงทะเบียนมากเกินไป  ส่วนจะเปิดเฟสต่อไปหรือไม่ ก็ต้องดูว่าเกิดการหมุนเวียนของเงินได้มากน้อยแค่ไหน 
ข่าวทั้งหมด

X