*เอกชน มั่นใจแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล เสนอช่วยเอสเอ็มอี- คงอัตราภาษีที่ดิน*

12 มกราคม 2558, 20:04น.


ภายหลังการหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับตัวแทนภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 25คน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยหลังหารือเมื่อช่วงเย็นนี้ว่า ในวันนี้มีตัวแทนนักธุรกิจในภาคต่างๆ  ตัวแทนภาคอสังหาริมทรัพย์  ,ผู้ค้าปลีก ,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  เป็นต้น  ภาคเอกชน พูดถึงโครงการที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการ  เช่น การช่วยเหลือคนจนที่มีกว่า 17ล้านคนทั่วประเทศ ให้มีอาชีพเสริมนอกจากปลูกข้าว และปลูกยางพารา โดยควรส่งเสริมให้ปลูกผืชผักปลอดสารพิษ หรือวัตถุดิบอาหารอื่นๆ เพื่อขายให้กับชุมชนใกล้เคียง หรือส่งออก ซึ่งในเรื่องนี้ต้องมีหลายภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนรวมถึงอยากให้รัฐบาลช่วยดูแลและพัฒนาในด้านธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือ(SMEs) เช่น การหาตลาด ,และการลงทุน  เพื่อจะได้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs โดยภาคเอกชนก็พร้อมที่จะทำงานร่วมรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ก็อยากให้รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องในเรื่องการขออนุญาตการประเมินผลกระทบของสิ่งแวดล้อม หรือ(EIA)ในจังหวัดต่างๆ  รวมถึงอยากให้ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านแรงงานเพราะปัจจุบันแรงในภาคนี้มีน้อย  และที่สำคัญอยากให้รัฐบาลคงอัตราภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม เพื่อจะได้ส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนภาคการธนาคารก็อยากให้รัฐบาลดำเนินการออกกฎหมายหลักประกันธุรกิจ และกฎหมายอื่นๆที่ช่วยสนันสนุนภาคเศรษฐกิจและการลงทุน  ซึ่งภาคเอกชน รอให้มีการดำเนินการมาเป็นเวลานานหลายรัฐบาลแล้ว   และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถดำเนินการได้ เพราะถ้าหากทำได้จะทำให้ธุรกิจ SMEs  สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ส่วนการที่รัฐบาลมีนโยบายในการตั้งคณะทำงานในการต่อต้านการทุจริต  ภาคเอกชนในหลายส่วนก็เห็นด้วยว่าควรดำเนินการอย่างยิ่ง  และตัวแทนภาคธุรกิจก็เข้าใจในหลายเรื่อง ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ โดยทุกคนก็มั่นใจในการทำงานของรัฐบาลทางด้านเศรษฐกิจ  ด้านร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ส่วนเรื่องการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ไม่ได้มีการหารือ แต่จากการรับฟังข้อมูลจากตัวแทนทางด้านท่องเที่ยว ก็ทำให้ทราบว่านักท่องเที่ยวมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายในการห้างสรรสินค้าชั้นนำก็มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย โดยไม่กลัวหากเปรียบเทียบกับช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง



วิรวินท์ 

ข่าวทั้งหมด

X