ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.ประจำวันพุธที่ 20 มกราคม2564
คณะกรรมการอิสระยอมรับ ทั้ง WHOและจีน ล่าช้าควบคุมโรคโควิด-19 หลังเริ่มระบาดในอู่ฮั่น
คณะกรรมการอิสระเพื่อการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อโรคระบาด(Independent Panel for Pandemic Preparedness and Response)ขององค์การอนามัยโลก(WHO) ซึ่งมีอดีตนายกรัฐมนตรีเฮเลน คลาร์กของนิวซีแลนด์ และอดีตประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟของไลบีเรีย เป็นประธานร่วมเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ประเทศจีนและWHO ดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เร็วกว่าและเข้มข้นมากกว่าที่ประเทศจีนและ WHO ดำเนินการมา หลังพบการแพร่ระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของประเทศจีนปลายปี 2562
โดยในส่วนของจีน ที่ประชุมมองว่า หน่วยงานสาธารณสุขทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติของจีนล่าช้า ในการควบคุมโรคในระยะแรกๆ จนกระทั่งเดือนมกราคม 2563 ทางการจีนจึงดำเนินมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้นมากขึ้นเช่นการประกาศล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 23 มกราคม-7 เมษายนปีก่อน และแม้ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนรายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกๆระหว่างวันที่ 12-29 ธันวาคม 2562 แต่ทางการจีนไม่ได้แจ้งให้ WHO ทราบทันที เพิ่งแจ้งให้ WHO ทราบในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการฯเห็นว่าในช่วงที่จีน ประกาศล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 นั้น เชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดจากประเทศจีนไปยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ประเทศไทยและสหรัฐฯ
ด้าน WHO คณะกรรมการฯได้วิจารณ์ว่า ล่าช้าในการแจ้งเตือนทั่วโลกให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาด พร้อมเสนอให้มีการปฏิรูปองค์กร WHO แม้ว่าจะถูกแจ้งให้ทราบมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่ WHO ไม่ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินของ WHO ให้พิจารณาเรื่องนี้ รอจนกระทั่งวันที่ 22 มกราคม 2563 จึงเรียกประชุม จากนั้นรอกระทั่งวันที่ 30 มกราคม 2563 WHO จึงประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับนานาชาติ ( public health emergency of international concern)
คณะทำงาน ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม WHO จึงรอจนกระทั่งสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคมปีที่แล้ว ถึงนัดประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน และทำไม WHO จึงไม่ประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ที่นานาชาติควรให้ความสำคัญตั้งแต่ครั้งแรกที่เรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในวันที่ 22 มกราคม 2563 และยังรอจนกระทั่งวันที่ 11 มีนาคม 2563 WHO จึงประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาด (pandemic)ทั่วโลก เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ยอดผู้ป่วยสะสมสูงถึง 118,000 คนทั่วโลก เสียชีวิตกว่า 4,000 ราย
รมว.อังกฤษ กักตัว หลังได้รับคำเตือนจากแอปฯติดตามโควิด-19
นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษประกาศกักตัวเอง หลังได้รับการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นติดตามโควิด-19 ของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS)
นายแฮนค็อกได้โพสต์วิดีโอลงบนทวิตเตอร์ โดยระบุว่า เมื่อวานนี้ ผมได้รับการแจ้งเตือนจากแอปติดตามโควิดของ NHS นั่นหมายความว่า ผมจะต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน และไม่ออกจากบ้านเลย จนถึงวันอาทิตย์ การกักตัวเองนี้อาจเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดของการเว้นระยะทางสังคม ทำงานจากที่บ้านในช่วงเวลา 6 วันถัดจากนี้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ หากเราสามารถทำตามข้อกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดได้ทั้งหมด เราก็จะผ่านพ้นจากปัญหาเหล่านี้และเอาชนะไวรัสตัวนี้ได้
ปัจจุบัน อังกฤษกำลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นในประเทศ เช่นเดียวกับที่สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งมีการประกาศใช้มาตรการในลักษณะเดียวกัน
เยอรมนีเตรียมขยายเวลาล็อกดาวน์ถึง 14 ก.พ. นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลเยอรมนีเตรียมขยายเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแม้จะพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่ก็ยังมีความกังวลว่าไวรัสกลายพันธุ์จะยังคงระบาดไม่หยุดหากไม่ต่อเวลา ล็อกดาวน์ นอกจากนี้ เยอรมนียังเตรียมบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะด้วย
ทั้งนี้ เยอรมนีพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 11,369 คน ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ประมาณ 2.05 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 989 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 47,622 ราย
รัฐบาลของจังหวัดชิซุโอกะประกาศเตือนฉุกเฉิน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์
นายเฮตะ คาวาคัตสึ ผู้ว่าราชการจังหวัดชิซุโอกะเผยแพร่การแจ้งเตือน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ 3 คน ซึ่งจังหวัดมีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ ทำให้จังหวัดมีความจำเป็น ที่จะต้องใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น และเสริมความแข็งแกร่งให้กับมาตรการด้านการดูแลทางการแพทย์
ด้านกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า เคสดังกล่าวนับเป็นการยืนยันพบการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก จากที่แต่เดิมพบเพียงในผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ และยังไม่สามารถติดตามเส้นทางการแพร่ระบาดได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยในวันเดียวกันว่า รัฐบาลจะตรวจสอบว่าไวรัสกลายพันธุ์ที่พบเป็นครั้งแรกในอังกฤษนั้นกำลังแพร่ระบาดในญี่ปุ่นหรือไม่ โดยจะมีการเก็บตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยที่ตรวจพบในจังหวัดชิซุโอกะมาตรวจสอบ
รัฐนิวยอร์กสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์โดยตรง หลังโครงการฉีดวัคซีนล่าช้า
นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้ติดต่อกับนพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เพื่อขอซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยตรงจากบริษัท หลังจากโครงการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า นายคัวโมระบุในจดหมายถึงไฟเซอร์ว่า บริษัทควรขายวัคซีนให้รัฐนิวยอร์กโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานส่วนกลาง เนื่องจากไฟเซอร์ไม่ได้ทำข้อตกลงในโครงการ Operation Warp Speed เหมือนอย่างโมเดอร์นา พร้อมบอกว่า การที่บริษัทตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการ Operation Warp Speed ซึ่งคณะทำงานของนายไบเดนวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงนั้น ทำให้ไฟเซอร์เป็นบริษัทเดียวที่สามารถช่วยชีวิตประชาชนในรัฐนิวยอร์กได้
ด้านไฟเซอร์ชี้แจงในแถลงการณ์ว่า วิธีการที่เสนอนั้นจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากกระทรวงบริการด้านสุขภาพและมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกาก่อน
ไบเดน หักหน้าทรัมป์ ไม่ยกเลิก คำสั่งห้ามคนเดินทางจากยุโรป-สหรัฐเข้าประเทศ
หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามที่จะยกเลิกมาตรการห้ามผู้เดินทางจากพื้นที่จำนวนมากในยุโรปและบราซิลเข้ามาสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมนี้ เป็นต้นไป แต่จะยังคงห้ามผู้เดินทางจากจีนและอิหร่านเหมือนเดิม เพื่อป้องกันชาวอเมริกันจากโควิด-19 ควบคู่กับการฟื้นฟูการเดินทางอย่างปลอดภัย
ทรัมป์ประกาศมาตรการห้ามเช่นนี้เอาไว้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคมปีที่แล้ว โดยห้ามผู้เดินทางจากจีนที่ไม่ใช่คนอเมริกันเข้าประเทศเพื่อสกัดไวรัสโคโรนา ก่อนขยายบังคับใช้ครอบคลุมประเทศต่างๆ ในยุโรปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งอเมริกาประกาศล็อกดาวน์ตัวเองโดยสิ้นเชิงเพื่อป้องกันโรคระบาด
หลังการออกคำแถลงของทรัมป์ในวันอังคารไม่กี่นาที เจน ซากี โฆษกหญิงของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ทวิตโดยอ้างอิงทีมที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระบุว่า คณะบริหารชุดใหม่ไม่มีแผนยกเลิกมาตรการแบนการเดินทางตั้งแต่วันที่ 26 ที่จะถึงนี้ แต่จะยกระดับมาตรการสาธารณสุขเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ที่ขณะนี้รุนแรงยิ่งขึ้นทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังจาก ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ประกาศว่า ผู้เดินทางจากทุกประเทศที่ต้องการเดินทางเข้าอเมริกาจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง นโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้นับจากวันที่ 26 มกราคม และเพิ่มเติมจากกฎการตรวจผู้เดินทางจากอังกฤษที่บังคับใช้ในเดือนธันวาคมหลังพบไวรัสกลายพันธุ์ที่เชื่อว่า แพร่ระบาดได้เร็วขึ้นในแดนยูเนียนแจ็ก
ทั้งนี้ นายไบเดนจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงเที่ยงวันพุธ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดโดยใช้ทหารกว่า 20,000 คนจากกองกำลังป้องกันชาติ (เนชั่นแนลการ์ด) เนื่องจากมีข่าวกรองจากสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ว่า กลุ่มติดอาวุธขวาจัดที่สนับสนุนนายทรัมป์จะก่อกวนพิธีดังกล่าวทั้งในกรุงวอชิงตันและ 50 รัฐทั่วประเทศ โดยนายทรัมป์ยังคงเก็บตัวเงียบ หลังกลุ่มผู้สนับสนุนของตนเองสร้างความอัปยศด้วยการบุกโจมตีรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน นำไปสู่การโหวตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของสภาผู้แทนราษฎรให้เริ่มต้นกระบวนการถอดถอนนายทรัมป์เป็นรอบที่ 2 โดยที่ว่ากระบวนนี้จะยังดำเนินต่อไป แม้นายทรัมป์พ้นอำนาจไปแล้ว
นายทรัมป์ยังกำลังจะเป็นประธานาธิบดีที่พ้นตำแหน่งคนแรกในรอบ 152 ปีที่ไม่ไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนต่อไป โดยเช้าวันพุธเขาจะเดินทางออกจากทำเนียบขาวไปยังกอล์ฟคลับในฟลอริดาของตนเองด้วยเครื่องแอร์ฟอร์ซ วัน ตามสิทธิพิเศษในการเดินทางในฐานะประธานาธิบดีซึ่งจะสิ้นสุดลงเที่ยงวันพุธ ไม่เพียงหมดวาระพร้อมกับกระบวนการถอดถอนที่รออยู่แล้ว นายทรัมป์ยังมีคะแนนนิยมในฐานะประธานาธิบดีแค่ 34% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากผลโพลของแกลลัปเมื่อวันจันทร์นี้
ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายทรัมป์เมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของนายทรัมป์ และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน สามีของเธอ ต่างแสดงสปิริตเข้าร่วมในพิธีด้วย ทั้งที่นางคลินตันเพิ่งจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้แก่นายทรัมป์
ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ระบุว่าจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายไบเดนฃ
หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกรับผู้นำคนใหม่
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.20 จุด อยู่ที่ 30,930.52 จุด จากปัจจัยการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ส่วนราคาน้ำมันวันนี้ ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 62 เซนต์ อยู่ที่ 52 เหรียญ 98 เซนต์ เบรนท์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้นเช่นกัน 1 เหรียญ 23 เซนต์ ปิดที่ 55 เหรียญ 98 เซนต์
มีรายงานข่าวระบุว่ากลุ่มสนับสนุนนายทรัมป์จะจัด"พิธีสาบานตนรับตำแหน่งรอบสอง"แบบเสมือนจริงทางออนไลน์ให้นายทรัมป์ในวันและเวลาเดียวกับที่นายไบเดนจะสาบานตนเป็นผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งมีคนกว่า 68,000 คน ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า จะเข้าร่วมพิธีทางออนไลน์เพื่อแสดงการสนับสนุนนายทรัมป์
รถชนกันอย่างน้อย 134 คันบนทางด่วนของญี่ปุ่นที่ถูกพายุหิมะพัดถล่ม
สำนักงานจัดการภัยพิบัติญี่ปุ่นแจ้งว่า เหตุเกิดบนทางด่วนโตโฮคุ ในจังหวัดมิยางิ ทางเหนือของประเทศช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น รถอย่างน้อย 134 คันชนกันในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้งในระยะทาง 1 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บราว 200 คน ในจำนวนนี้ 12 คนต้องส่งโรงพยาบาล ญี่ปุ่นจำกัดความเร็วยวดยานไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อหิมะตกหนักจนทัศนวิสัยไม่ดี แต่ความเร็วดังกล่าวก็ยังไม่สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้ ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ญี่ปุ่นมีหิมะตกหนักมากกว่าปกติในหลายพื้นที่