ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 19 มกราคม 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 19 มกราคม 2564

พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินี พระราชทาน ชุดPPE 700,000ชุด แก่บุคลากรทางการแพทย์

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร รับพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ณ อาคารกองกิจการในพระองค์ พระที่นั่งอัมพรสถาน และให้สัมภาษณ์ว่า  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวน 700,000 ชุด ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งชุด PPE มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ทำให้มีความปลอดภัยขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งขณะให้การดูแลรักษาผู้ป่วย/ ผู้ติดเชื้อ การเก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวัง ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ซึ่งทำให้การป้องกันควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

          สำหรับชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 700,000ชุดที่ได้รับพระราชทาน ประกอบด้วย เสื้อคลุมแขนยาว (Isolation Gown) 400,000ชุด ชุดสวมคลุมร่างกายชิ้นเดียว มีฮู้ดคลุมคอและศีรษะ (Coverall Gown) 100,000ชุด และเสื้อคลุมแขนยาวชนิดใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) 200,000ชุด โดยกระทรวงสาธารณสุข จะกระจายไปยังโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต รวม 490,000 ชุด กรุงเทพมหานคร 70,000ชุด และเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHOSNET) 140,000 ชุด

ผอ.สถาบันวัคซีน ระบุ แอสตราเซเนกาเลือกบริษัทไทยผลิตวัคซีนโควิด-19

          ข้อถกเถียงประเด็นการผลิตวัคซีนโควิด-19ในประเทศไทย นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ต่างจากสถานการณ์ปกติทั่วไป การใช้ความรู้ทั่วไปไม่พอ การจัดหาวัคซีนโควิด-19ล่วงหน้าต้องใช้ข้อมูลหลายองค์ประกอบ ต้องพิจารณาข้อมูลรูปแบบของวัคซีนและแนวโน้มการนำมาใช้การกับไทยอย่างไรต้องพิจารณารอบคอบ กรณีบริษัทแอสตราเซนากา เป็นการจองซื้อแบบมีข้อตกลงให้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ไทยด้วย จึงต้องหาบริษัทในไทยที่พร้อมที่สุด ซึ่งก็พบว่ามีเพียงบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่มีศักยภาพเพียงพอ แม้แต่องค์การเภสัชกรรมก็ไม่มีเทคโนโลยีที่พร้อมรับการถ่ายทอดเร่งด่วน เพราะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเร่งด่วน ซึ่งแอสตราเซเนกาเป็นผู้คัดเลือกบริษัทสยามฯ เพราะมีเครือข่ายจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด กับเครือเอสซีจี เจรจาให้มีการประเมินและต้องการขยายกำลังการผลิต ซึ่งต้องผลิตได้ 200 ล้านโดสต่อปี บริษัทแอสตราเซเนกา ได้พิจารณาเลือก บริษัท สยามฯ ทั้งที่ หลายประเทศอยากถูกบริษัทแอสตราเซนากาคัดเลือก แต่การทำงานของรัฐบาลไทย ได้สนับสนุนงบประมาณ 595 ล้านบาท กับ งบบริษัทเอสซีจี อีก 100 ล้านบาทให้บริษัทสยามฯจัดซื้อเครื่องมือจนปรับศักยภาพการผลิตจนได้รับคัดเลือก ซึ่งรัชกาลที่ 9 ทรงวางแนวทางพื้นฐานไว้ เป็นการขาดทุนเพื่อกำไร การที่บริษัท สยามฯมีพื้นฐานที่ดี ทำให้วันนี้ได้วัคซีน 26 ล้านโดส คนที่ไม่เห็นอาจเข้าใจว่าไปสนับสนุน บริษัทที่ขาดทุน แต่เป็นการขาดทุนเพื่อกำไรไปสู่การผลิตยาได้เองพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต

          ผอ.วัคซีนแห่งชาติ ระบุด้วยว่า การที่บริษัท สยามฯ มาร่วมผลิตวัคซีนโควิด-19ต้องหยุดการผลิตยาเดิม เพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้ได้ตามจำนวนที่กำหนด และข้อมูลการผลิตตอนนี้เป็นไปตามแผนมั่นใจว่าจะได้วัคซีนตามที่กำหนด ซึ่งต้องขยายวัคซีนจากที่แอสตราเซเนกาให้มาแค่ 1 ซีซีต้องขยายกำลังผลิตให้ได้ 2,000 ลิตร จึงต้องทุ่มเทสรรพกำลัง และต่อไปทุกหน่วยงานจะได้รับงบในการวิจัยเพิ่ม

          ในอนาคตเราก็จะมีวัคซีนใช้เองตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้มีวัคซีนครบใช้เพื่อคนไทย ส่วนข้อมูลที่ว่าบริษัทสยามฯจะขายวัคซีนให้ไทย เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน การจัดซื้อวัคซีนเป็นการซื้อจากบริษัท แอสตราเซเนกา ที่ขายให้ไทยที่ราคาทุนเท่านั้น ค่าจ้างในการผลิตของบริษัท สยามฯ ก็ต้องผลิตให้ในราคาต้นทุนเพื่อให้แอสตราฯไปขายราคาทุนทำให้ราคาถูก นอกจากนั้น ยังมีการเขียนในสัญญาชัดเจนเลยว่า ถ้าผลิตวัคซีนได้แล้ว บริษัท สยามฯ จะคืนวัคซีนในจำนวนเท่ากับทุนสนับสนุนให้กับรัฐบาลด้วย ไม่ใช่ทุนให้เปล่า เพื่อลดสงสัยต่างๆ ในการสนับสนุนเอกชน ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยคลาดเคลื่อนควรหมดไปและไม่ควรโยงไปกระทบกับสถาบันที่เคารพรัก

          สำหรับการอนุญาตใช้วัคซีนตอนนี้เป็นแบบ Emergency Use เป็นการใช้แบบเร่งด่วน เพราะระบาดทั่วโลก จึงต้องวิเคราะห์ผลข้างเคียง ถ้ารีบร้อนจะเกิดผลเสีย เป็นโอกาสดีที่จะเก็บข้อมูลจากประเทศที่ใช้ไปก่อน การที่มีข่าวว่าประเทศเพื่อนบ้านจัดหาฉีดแล้ว ก็เพียงหมื่นโดส แค่ให้เป็นการประชาสัมพันธ์ แต่ของเราวัคซีนมีการวางแผน เก็บข้อมูลต่อเนื่อง ยืนยันรัฐมีงบเพียงพอ ถ้าวันนี้มีวัคซีนให้ซื้อ ซื้อได้หมด ส่วนที่ว่า รัฐกีดกัน ก็ไม่จริง ถ้าจัดหาวัคซีนได้ ทำได้เลย ไม่ได้กีดกัน แต่วัคซีนไม่มี และกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลจะดูแลให้ปลอดภัยรอบคอบในการจัดหาวัคซีน

          ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระบวนการหาวัคซีนได้ดำเนินการมายาวนานต่อเนื่อง วัคซีนคือการเอาเชื้อโรคมาฉีดสร้างภูมิ ทั่วไปต้องใช้เวลาผลิต 10 ปี แต่โควิด วัคซีนถูกร่นเวลาเร็วขึ้น สิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่คือประสิทธิภาพและต้องผ่านการพิสูจน์ความปลอดภัย ซึ่งกรมควบคุมโรค ขอให้ความมั่นใจว่า ต้องรอบคอบ ปลอดภัย โดย อย.ก็จะให้การรับรอง ขณะนี้มี 2 บริษัท ขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ในสัปดาห์นี้ กระบวนการเจรจาน่าจะเสร็จสมบูรณ์ และมีการเจรจากับบริษัทอื่นด้วย แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าปลอดภัย นอกจากนี้ยังจัดหางบประมาณในการจัดฉีดฟรีให้ประชาชนซึ่งของบริษัทแอสตราเซนากาถูกที่สุด

ไทยนำเข้าวัคซีน 2 ตัว "โมเดอร์นา -ซิโนแวกซ์" เตรียมฉีดของซิโนแวกซ์ในเดือน ก.พ.

          ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้ให้ข้อมูลวัคซีน โควิด-19 ที่จะนำเข้าไทยว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่มีการสั่งเข้ามาในหลายประเทศ ที่ทุกตัวผ่านระยะทดลองเฟส 1-3 การศึกษาในคน  โดยไทยจะนำวัคซีน 2 ตัวเข้ามาใช้ได้แก่

1.วัคซีน Moderna ของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้การผลิตด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่มีประสิทธิภาพคู่ขนาดมากับ วัคซีน Pfizer ถึง 94.5% เก็บรักษาได้ในอุณหภูมิ 20 องศา มีการอนุมัติใช้แล้วในหลายประเทศ ทั้งนี้หากฉีด 1 เข็มมีประสิทธิภาพ 80.2% ฉีดครบ 2 เข็ม หากฉีดครบ 2 เข็ม ประสิทธิภาพจะอยู่ที่ 94.5% และได้มีการศึกษาในกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป วัคซีนก็ยังมีประสิทธิภาพสูง 86.4% รายงานล่าสุด พบภาวะข้างเคียงเมื่อฉีดครบ 2 เข็มคือ ปวดศีรษะ 63% อ่อนเพลีย 68% ปวดข้อ 45% หนาวสั่น 48% ซึ่งสูงกว่ารายงานของ วัคซีน Pfizer

2. วัคซีน SINOVAC ของประเทศจีน โดยบริษัท Sinovac Biotech โดยจะเข้าประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 วัคซีนตัวนี้ใช้กระบวนการผลิตโดยใช้เชื้อโคโรนาไวรัส ที่อ่อนแรงหรือตาย ซึ่งวัคซีนตัวนี้มีการศึกษามาเยอะทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ โดยมีประสิทธิภาพ 50.38% เก็บรักษาด้วยการแช่เย็น และต้องฉีด 2 เข็มห่างกัน 2 สัปดาห์ ข้อดีของวัคซีนตัวนี้คือ ใช้เทคโนโลยีที่เราคุ้นเคย และเข้าสู่กระบวนการผลิตได้เร็ว โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2563 รัฐบาลจีนอนุมัติให้ฉีดวัคซีนแก่บุคลากรที่ทำงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และมีการกระจายไปใช้ในหลายประเทศในจำนวนมาก

          ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 เพียง 7% ที่ผ่านการศึกษาเฉพาะในสัตว์ทดลอง ประสบความสำเร็จเมื่อใช้ในคน ส่วนในระยะที่ศึกษาในคนจำนวนมาก ประสบความสำเร็จเพียง 20% หรือ 1 ใน 5 ดังนั้น วัคซีนที่ศึกษาในคนแล้วประสบความสำเร็จในระยะที่ 3 อาจใช้ได้จริงเพียง 50% เพราะในกลไกการผลิตวัคซีน ร่างกายของคนก็ตอบสนองไม่เหมือนกัน

          "ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนใดก็ตามหากผ่านการศึกษาครบทุกระยะเรียบร้อย เมื่อมาฉีดในประชากรจำนวนมาก สิ่งที่ต้องติดตามหลักจากนั้นคือ

1.ภาวะแทรกซ้อนที่ในระหว่างการศึกษาไม่ปรากฏ

2.สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ และการเลือกวัคซีน ปัจจัยสำคัญคือ ความปลอดภัย ที่จะต้องไม่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนเราไม่จำเป็นต้องเลือกวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงใกล้ 100% เพราะในทางปฏิบัติไม่มีวัคซีนใดได้ประสิทธิภาพเต็ม 100% แต่ต้องมีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 50% เทียบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพประมาณ 50-60% เมื่อฉีดแล้วอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่แต่ไม่รุนแรง เป็นต้น และการจัดส่งวัคซีนอย่างทั่วถึงมีคุณภาพ เพราะวัคซีนบางตัวมีการจัดเก็บยาก อาจจะมีองค์ประกอบทำให้วัคซีนเสื่อมประสิทธิภาพ

สมุทรสาครตรวจโควิดเชิงรุก ‘ทลายรังปลวก’ สุ่มหาผู้ติดเชื้อโควิด-19ในนิคมอุตสาหกรรม

          การระบาดของเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาคร การตรวจหาเชิงรุก ตามแผนปฏิบัติการ  “ 2 สัปดาห์ ทลายรังปลวก” ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ในวันนี้ได้สุ่มตรวจในกลุ่มผู้ใช้แรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ซึ่งมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่มากกว่า  100 แห่ง มีผู้ใช้แรงงานกว่า 20,000 คน ส่วนการสุ่มตรวจในครั้งนี้ใช้วิธีการเก็บตัวอย่างจากน้ำลายของพนักงานโรงงานละ 50 ราย หากสถานประกอบการใดพบเชื้อมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจให้ครบทุกคน

          จากเดิมการตรวจหาเชื้อด้วยสารคัดหลั่งในโพรงจมูก ( การตรวจโควิด-19 แบบ Swab หรือ PCR ) ซึ่งได้ผลแม่นยำมากที่สุดแต่ทราบผลช้าที่สุด กับ การตรวจจากการเจาะเลือด (Rapid test) มาเป็นการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในน้ำลายแทน เนื่องจากทราบผลเร็ว และได้ผลที่แม่นยำมากกว่า Rapid test ส่วนการตรวจหาเชื้อนั้น ก็จะส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ตรวจ หากใครพบเชื้อเป็นบวกก็จะแจ้งผลกลับมาเพื่อนำผู้นั้นเข้าสู่สถานที่กักตัวต่อไป

          ตามปฏิบัติการ “2 สัปดาห์ ทลายรังปลวก” จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจทั้งในสถานประกอบการ และ แหล่งชุมชน กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง ซึ่งในส่วนของสถานประกอบการที่ดำเนินการตรวจอยู่ในช่วงนี้ เป็นสถานประกอบการขนาดกลางมีผู้ใช้แรงงาน 200 – 500 ราย หลังจากที่ตรวจสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้แรงงานมากกว่า 500 ราย เสร็จสิ้นแล้ว

ประกันสังคม ม.33 ควบ "บัตรคนจน" ได้รับสิทธิ์ "เราชนะ" 7,000 บาท

          หลังจากกระทรวงการคลัง ได้กำหนดกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ลงทะเบียน “เราชนะ” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม มาตรา 33

          เงื่อนไขดังกล่าว ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่า สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ด้วย จะสามารถเข้าร่วมโครงการ “เราชนะ” ได้หรือไม่

          ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้อัตโนมัติ ถ้ารายได้น้อยตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

          ทั้งนี้ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับสิทธิ์ “เราชนะ” อัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนอยู่แล้ว นอกจากนั้น ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40ได้รับสิทธิ์เราชนะได้เช่นเดียวกัน

ก.คลังเตรียมติดตั้งปุ่มทบทวนสิทธิ์ หากสงสัยหลังลงทะเบียน เราชนะ

          นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงการรับสิทธิ์ในส่วนกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ มีการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ ที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน

          หากไม่แน่ใจว่าได้รับสิทธิ์หรือไม่ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ ผ่าน www.เราชนะ.com ได้ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2564 เป็นต้นไป โดยกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์และอยากจะ  ร้องเรียน กระทรวงการคลังจะทำปุ่ม “ทบทวนสิทธิ์” ขึ้นมาให้แจ้งข้อมูลหลังจากให้เช็คสิทธิ์ ซึ่งคาดว่าปุ่มนี้จะออกหลังจากเปิดเช็คสิทธิ์ไประยะหนึ่ง

          ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มข้อมูลบัตรคนจนหรือไม่เคยเข้าร่วมมาตรการรัฐบาลเลย สามารถมาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ขอให้ประชาชนไม่ต้องรีบเพราะถ้าหากเข้าเกณฑ์ก็มีสิทธิ์ได้รับเงิน โดยการลงทะเบียนรอบนี้จะต้องให้ข้อมูลมากกว่าโครงการคนละครึ่ง นอกจากชื่อ-นามสกุล ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากจะต้องกรอกเกณฑ์รายได้ด้วย ซึ่งในเว็บจะมีตัวเลือกให้

นายกฯกำชับ ลงทะเบียน "เราชนะ" อย่าล่มซ้ำรอย "คนละครึ่ง"

          ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในช่วงการพิจารณามาตรการเยียวยาจากสถานการณ์โควิด-19 ใช้เวลาพูดคุยประมาณ20นาทีโดยเฉพาะ โครงการเราชนะโดย เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานรูปแบบโครงการว่า กลุ่มอาชีพใดจะได้รับสิทธิ์ ซึ่งในส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา33 จะไม่ได้รับสิทธิ์ เพราะยังอยู่ในระบบประกันสังคมที่ยังมีเงินช่วยเหลืออยู่จึงต้องตัดออกและจะเหลือผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ31ล้านคน

          โดยนายกฯ กำชับเรื่องของระบบรองรับ ในการเปิดลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 29ม.ค.2564และขอให้ตรวจสอบให้ดีอย่าให้มีปัญหาเพราะกลัวว่าหากประชาชนลงทะเบียนพร้อมๆ กันในคราวละมากๆ จะทำให้ระบบล่มเหมือนตอนเปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟสสอง นอกจากนี้นายกฯยังระบุด้วยว่าเราต้องลองดูและเราต้องเยียวยาประชาชนจนกว่าสถานการณ์โควิด-19จะหายขอให้ ครม.ไปช่วยคิดกันมาว่าจะมีโครงการอะไรออกมาช่วยเหลือประชาชนอีก

หุ้นไทยบวก12 จุด รับศก.จีน

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,522.59 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด (+0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 87,641.98 ล้านบาทหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้น ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาดี แต่ก็ยังรอดูถ้อยแถลงของนายโจ ไบเดน เกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ในวันที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และขานรับความหวังว่าสหรัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 28,633.46 จุด เพิ่มขึ้น 391.25 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้พุ่งขึ้น เนื่องจากได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับความหวังว่าสหรัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19 ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 29,642.28 จุด เพิ่มขึ้น 779.51 จุด

นักเทนนิสที่ร่วมศึกออสเตรเลียนโอเพน 2021ที่ถูกกักตัว เรียกร้องขอให้ผ่อนผันเพื่อฝึกซ้อม

          ประเด็นถกเถียง หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย เจ้าภาพจัดแข่งขันเทนนิสในศึกออสเตรเลีย โอเพน 2021 สั่งให้กักกันกลุ่มเสี่ยงคือ นักกีฬาเทนนิส 72 คน ที่เข้าร่วมแข่งขัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังผู้โดยสาร 9 คน รวมถึงผู้ฝึกสอน ได้ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำรวม 3 ลำ จากทั้งหมด 15 ลำที่นำคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่มาร่วมแข่งขันเทนนิสในครั้งนี้ ถูกตรวจพบติดโรคโควิด-19  ส่งผลทำให้ทั้งหมดห้ามออกจากห้องพักไปฝึกซ้อมในสนามจริง ก่อนการแข่งขันระหว่างวันที่ 8-21 กุมภาพันธ์

          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โนวัก จอคอวิช นักเทนนิสมือวางอันดับที่ 1 ของโลกจากเซอร์เบียและอดีตแชมป์ออสเตรเลีย โอเพน 8 สมัย เสนอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐวิกตอเรียพิจารณาผ่อนผันเรื่องนี้ให้กับคณะนักกีฬา เช่น การอนุญาตให้นักกีฬาไปกักกันตัวใกล้กับสนามฝึกซ้อม การจัดหาอาหารให้กับนักกีฬา ขอให้ลดจำนวนวันกักกันนักกีฬาให้น้อยกว่า 2 สัปดาห์ แต่นายแดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีของรัฐวิกตอเรีย ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิ์จะเสนอข้อเรียกร้องให้รัฐวิกตอเรียพิจารณาอย่างไรก็ได้ แต่รัฐวิกตอเรียจะดำเนินมาตรการควบคุมโรคโดยเคร่งครัด ไม่มีการผ่อนผันตามข้อเรียกร้องดังกล่าว

         ปัญหานี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่าการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ เช่น กีฬาโอลิมปิกกรุงโตเกียวที่ญี่ปุ่นจะจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม 2564 และพาราลิมปิก เกมส์ ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคมถึงวันที่ 5 กันยายนนี้ จะดำเนินการอย่างราบรื่นหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดทั่วโลกและหลายเมืองของญี่ปุ่น รวมถึงกรุงโตเกียวมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในระยะนี้

          แต่จากรายงานเบื้องต้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ระบุว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่นจะตรวจโรคให้กับนักกีฬาทุกๆ 4 วัน จะให้เจ้าหน้าที่ลดการติดต่อโดยตรงกับนักกีฬาให้มากที่สุด และจะอนุญาตให้นักกีฬาทำการฝึกซ้อมและเข้าร่วมแข่งขันตามปกติระหว่างถูกกักกัน 14 วัน หลังเดินทางมาถึงญี่ปุ่น

ผบช.น. ย้ำตร.ยิงเตือนหลายนัด ก่อนวิสามัญลูกชายคลั่ง

          พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีลูกชายคลั่งทำร้ายแม่จนเสียชีวิตแล้วจุดไฟเผาบ้านพักในซ.บางพรม 54 เขตตลิ่งชัน ท้องที่สน.บางเสาธง พร้อมชี้แจงสาเหตุวิสามัญฆาตกรรมว่า หลังรับแจ้งตำรวจรีบเดินทางมาระงับเหตุ พบมารดาผู้ก่อเหตุนอนอยู่ ส่วนคนร้ายถือมีดวิ่งเข้าใส่ตำรวจ ซึ่งบอกให้วางมีด แต่คนร้ายวางมีดได้ไม่นานก็หยิบมีดขึ้นมาอีก ตำรวจจึงยิงปืนเตือนหลายนัด เมื่อจวนตัวเพราะคนร้ายวิ่งเข้ามาใกล้จึงตัดสินใจวิสามัญเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่น และเป็นเหตุจำเป็นซึ่งหน้า เบื้องต้นพบประวัติก่อเหตุชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธเมื่อปี 2548 เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2559 ส่วนประวัติยาเสพติดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบยาเสพติด พร้อมสั่งตรวจสอบกรณีที่ญาติร้องเรียนแจ้งตำรวจหลายครั้งแต่ไม่มาระงับเหตุ

          ด้านพี่ชายคนร้ายเชื่อว่าอาการคลุ้มคลั่งไม่ได้เกิดจากการเสพยาเสพติด แต่เกิดจากอาการทางจิต เพราะน้องชายมีอาการสองบุคลิกตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุผ่าตัดทางสมอง หลังจากนั้นก็มีอารมณ์รุนแรง เริ่มมีปัญหาจากเครือญาติ จนกระทั่งถูกญาติเรียกมาจับกุมเมื่อ 2 วันก่อน จึงอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ทำร้ายแม่และเผาบ้านครั้งนี้ เพราะอาจน้อยใจที่แม่ปกป้องไม่ได้ ทำให้ถูกจับส่งตำรวจ