ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30 น.วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564

18 มกราคม 2564, 12:23น.



นายกฯ ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์รับทราบมาตรการรับมือโควิด-19 ของ จ.สมุทรสาคร





          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันนี้มีภารกิจประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับมาตรการสำคัญต่างๆ ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสาคร เช่น การคัดกรองเชิงรุก,การคัดกรองการเดินทาง ทั้งทางบกและทางน้ำ,การปิดสถานที่เสี่ยง,ความพร้อมของบุคลากร โรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ให้สามารถรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 



          นายกฯ กำชับเพิ่มเติมไปในเรื่องความเข้มงวดในการควบคุมการเดินทาง , การรณรงค์การสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า และการสร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ถึงอาการที่ต้องคอยเฝ้าระวัง รวมถึงการใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมโรค  พร้อมกับให้กำลังใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่  อาสาสมัคร ประชาชนทุกคน  รวมถึงภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่มาโดยตลอด 



CR:เฟซบุ๊ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 



คืบหน้าอาการผู้ว่าฯสมุทรสาคร ดื้อยา-มีเสมหะมาก ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่



          ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผย ความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พบว่าตอบสนองกับยาปฎิชีวนะบางตัวดี แต่มีอาการดื้อยาปฎิชีวนะบางตัว ดังนั้นจึงยังต้องให้ยาปฎิชีวนะเพิ่มเติมอีก 1-2 ตัว เนื่องจาก ยังมีเสมหะค่อนข้างเยอะ  การควบคุมการติดเชื้อในปอดทำได้ดีในระดับหนึ่ง  เอ็กซเรย์ปอดพบว่าการอักเสบดูเหมือนว่าจะเยอะขึ้น ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่ผลจากไวรัสโควิด-19 เพราะการรักษาโควิด-19 ด้วยการให้ยาต่างๆ นั้นจบไปแล้ว  แต่เนื่องจากเดิม ปอดของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ถูกโจมตีจากโควิด-19  ทำให้เกิดรอยโรคอยู่ก่อน จึงมีโอกาสถูกเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมเข้าไปได้ง่าย เพราะฉะนั้นมีแนวโน้มว่าหากเป็นเช่นนี้ คงต้องเลื่อนการถอดเครื่องช่วยหายใจไปก่อน เพื่อดูดเอาเสมหะต่างๆ ออ



          ส่วนข้อสงสัยว่า ผู้ว่าฯ สมุทรสาครรักษาตัวอยู่ในห้องความดันลบ ทำไมถึงเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียได้  ศ.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวว่าการรักษาในห้องความดันลบนั้นคือการป้องกันไม่ให้เชื้อที่อยู่ในห้อง หลุดออกมาข้างนอกได้ แต่เชื้อที่อาจจะมีอยู่เดิมไม่ได้หายไปไหน และโดยปกติร่างกายคนเราก็จะมีเชื้อโรคอยู่ เช่น แบคทีเรียจะมีอยู่ในเสมหะ ซึ่งปกติจะถูกขับออกมา มาตรฐานการแพทย์จึงต้องดูแลห้องไอซียูให้ปลอดเชื้อ แต่เนื่องจากผู้ว่าฯ สมุทรสาครถูกโจมตีด้วยโควิด-19 มาก่อน และช่วงนี้มีเสมหะมาก จึงเป็นที่มาที่จะต้องจัดการกับเสมหะให้ดี และใช้เครื่องช่วยหายใจไว้ก่อน เพื่อจะได้ดูดเสมหะออกมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการเพราะถ้าปกติหากมีการดื้อยาอีกจะต้องให้ยาปฏิชีวนะตัวใหม่เพิ่มอีก 1-2 ตัว 



ศบค.เน้นย้ำการระบาดในกทม.-ลักลอบเข้าเมืองจากมาเลเซีย



         พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ปฎิบัติหน้าที่วันแรกของการแถลงข่าว เปิดเผยสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า ในสัปดาห์นี้เข้าสู่สัปดาห์ที่สามแล้ว การติดเชื้อในประเทศที่พบจำนวนมาก ยังอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร 51 คน ผู้หญิง 31 คน ผู้ชาย 20 คน คนไทย 8 คน นอกนั้นเป็นแรงงานเมียนมา  เป็นการค้นหาเชิงรุก มีความร่วมมืออย่างมากใน จ.สมุทรสาคร เป็นความพยายามช่วยกันของภาครัฐ เอกชน ประชาชน เป็นอาสาสมัคร ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง หวังว่า ความร่วมมือเป็นตัวอย่างที่ดี อีกไม่นานทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ  และมีการเตรียมความพร้อม เตรียมการรองรับในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เช่น การเตรียมเตียง โรงพยาบาลสนาม เป็นต้น ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-2 คน ต้องมีการค้นหาเชิงรุกต่อเนื่อง  



1.ผู้ป่วยรายใหม่ 369 คน ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 12,423 คน



ผู้ติดเชื้อในประเทศ 82 คน



- ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 275 คน



-เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด 12 คน



2.หายป่วย 191 คน ทำให้มีผู้ที่หายป่วยแล้วรวม 9,206 คน



3.ไม่มีผู้เสียชีวิต เสียชีวิตรวม 70 ราย



4.พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,147 คน  




         ส่วนที่ต้องจับตา คือการระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น มาเลเซีย กำลังมีการระบาดอย่างหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการป้องกันชายแดนอย่างเข้มงวด และยังต้องขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันสอดส่องด้วย  



25 ม.ค.คนที่จะเดินทางเข้าสิงคโปร์ ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19



         มาตรการยกระดับคุมโควิด-19 ในสิงคโปร์ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศเพิ่ม 28 คน ทั้งหมดได้เข้ารับการกักตัวหลังจากเดินทางมาถึง



-กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เตรียมบังคับให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกคน ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 64 เป็นต้นไป



-ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 64 เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางเข้าสิงคโปร์ในโครงการ Reciprocal Green Lane (RGL) และนักท่องเที่ยวที่ใช้ใบอนุญาตเดินทางทางอากาศ จะต้องทำประกันการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโควิด-19 ในวงเงินอย่างน้อย 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 22,560 ดอลลาร์สหรัฐฯ



-ส่วนประชาชนและคนที่อยู่ในสิงคโปร์อย่างถาวรที่เดินทางกลับมาจากสหราชอาณาจักรหรือแอฟริกาใต้ จะต้องกักตัวเพิ่มอีก 7 วัน ในที่พักของตัวเอง หลังกักตัวครบกำหนด 14 วัน ในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้ เนื่องจากทั้งสองประเทศพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็ว




ผู้สนับสนุน ‘ทรัมป์’ ชุมนุมตามเมืองใหญ่ น้อยกว่าที่คาด



          กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีแนวคิดการเมืองขวาจัด และสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาชุมนุมกันตามสถานที่สำคัญตามเมืองเอกและเมืองใหญ่ในทั้ง 50 รัฐของสหรัฐฯ และที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความคาดหมายของหน่วยงานด้านความมั่นคง



         เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตั้งจุดตรวจบนถนนสายหนึ่ง ก่อนผ่านเข้าสู่ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ค่อนข้างผิดจากความคาดหมาย คือจำนวนประชาชนตามเมืองใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะในกลุ่มรัฐที่เป็นสวิงสเตท หรือรัฐสมรภูมิของการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐจอร์เจีย รัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซิน มีผู้เข้าร่วมชุมนุมน้อยกว่าที่ทุกฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้มาก



          แม้ว่าไม่มีรายงานการเกิดเหตุรุนแรงและมีความสูญเสียเกิดขึ้น แต่นายไรอัน แมคคาร์ธีย์ รัฐมนตรีทบวงกองทัพบกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้เต็มร้อย จนกว่าจะผ่านพ้นพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน




 

ข่าวทั้งหมด

X