ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30 น.วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564

18 มกราคม 2564, 08:47น.



16 จังหวัดยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า การติดเชื้อโควิด-19 ระบาดใน 61 จังหวัดแล้ว



          16 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คือ



1.ศรีสะเกษ



2.ยโสธร



3.บึงกาฬ 



4.กาฬสินธุ์



5.สกลนคร



6.นครพนม



7.มุกดาหาร



8.แพร่



9.พะเยา



10.เชียงราย



11.แม่ฮ่องสอน



12.อุทัยธานี



13.พังงา



14.ชุมพร



15.ปัตตานี



16.ยะลา



ระยอง ค้นหาเชิงรุกกว่า 17,000 คน พบรายใหม่ 2 คน



          นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง  ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการป้องกันจนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่อยู่ในหมู่บ้านมาบเหลาชะโอน ต.ชากพง อ.แกลง  ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่พบในคนขับรถตู้คนแรกในหมู่บ้านที่ไปร่วมงานหลายแห่งทั้งงานเลี้ยงและพบเพื่อนฝูงในหมู่บ้าน มีการนำรถพระราชทานตรวจเชื้อนิรภัยลงไปตรวจหาเชื้อเชิงรุกในหมู่บ้านจนพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2 คน จากการค้นหาเชิงรุกทั้งหมด 17,107 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 564 คน รักษาหายแล้ว 450  คน เหลือรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 113 คน



เริ่มมีสัญญาณดี เชียงใหม่ ไม่พบรายใหม่-กลุ่มสัมผัสเสี่ยง ผลตรวจซ้ำเป็นลบ



          นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เชียงใหม่ เริ่มมีสัญญาณดีต่อเนื่องหลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว แต่ก็ไม่ควรประมาท หรือวางใจจนการ์ดตก ยังต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดของโควิด-19 ต่อไป โดยกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงของผู้ติดเชื้อระลอกนี้กว่า1,000 คนมีสัญญาณที่ดี เพราะผลตรวจซ้ำก็เป็นลบ แต่ขอให้ทุกคนยังต้องกักตัวเพื่อดูอาการจนครบกำหนด



          ผู้ติดเชื้อทั้ง 23 คนในรอบนี้รักษาหายไปแล้ว 1 คน อีก 22 คน อยู่ระหว่างการดูแลของแพทย์ ทุกคนมีอาการที่ดีต่อเนื่อง การตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงดำเนินการรวม 8,490 คน ไม่พบติดเชื้อ แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ยังคงเน้นย้ำในมาตรการเข้มงวดระดับสูงสุด ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ซึ่งมีกำหนดจนถึงสิ้นเดือนนี้



รวบนักพนันเล่นไฮโล 2 จุดในพื้นที่สภ.บางพลี-สภ.อัมพวา



          เจ้าหน้าที่ จับคนลักลอบเล่นการพนันไฮโล 2 พื้นที่ ในพื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม



-กลางดึกเมื่อคืนนี้ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ต.นัฐพล ชมศิริ สว.ตม.จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.สมุทรปราการ เจ้าหน้าชุดสืบสวน สภ.บางพลี และเจ้าหน้าที่ป้องกันปราบปราม สภ.บางพลี กว่า 30 นาย ปิดล้อมจับกุมวงพนันไฮโล บริเวณข้างอพาร์ทเม้นท์แรงงานเมียนมา เลขที่ 34/7-15 ม.1 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จับกุมนักพนันชาวเมียนมาได้ 12 คน แบ่งเป็นชาย 9 คน และหญิง 3 คน พร้อมยึดของกลางเป็นอุปกรณ์การเล่นพนันไฮโล และเงินสดวางพนันจำนวน 220 บาท โทรศัพท์มือถือที่ใช้เปิดไฟให้ความสว่างวงไฮโลอีก 1 เครื่อง จึงควบคุมตัวนักพนันพร้อมกับของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี



          พ.ต.อ.วิโรจน์ ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งว่ากลุ่มแรงงานเมียนมากลุ่มนี้ ลักลอบเล่นการพนันข้างตึกหอพัก จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ทั้งหมด 12 คน แรงงานกลุ่มนี้อาศัยช่วงเลิกงาน หรือบางคนมีงานน้อยเพราะช่วงสถานการณ์โควิด-19 รวมตัวกันแอบเล่นการพนัน ผลการตรวจหาเชื้อไม่พบว่ากลุ่มแรงงานที่พักอาศัยในจุดนี้ติดเชื้อโควิด-19



-เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม บุกเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.วัดประดู่ อ.อัมพวา หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบเล่นไฮโล นักเล่นไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่พากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง บางคนกระโดดหนีลงคลองไปซ่อนตัวอยู่ในกอผักตบชวา แต่ไม่รอดถูกตามจับตัวเอาไว้ได้ อ้างเล่นแก้เครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย



          หลังจากเจ้าหน้าที่ตะโกนเรียก หญิงอายุ 55 ปี ก็ไม่ยอมออกมา จึงต้องกระโดดน้ำลงไปนำตัวขึ้นมา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นตะคริวแล้วจมน้ำ พอนำตัวขึ้นมา ผู้ต้องหาหญิงคนดังกล่าว อ้างว่า ไม่ได้มาเล่นการพนัน แต่มากินขนม พอเห็นตำรวจจึงตกใจวิ่งหนี และกระโดดลงน้ำ

          นอกจากนี้ยังพบว่าบางคนว่ายน้ำข้ามคลองไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ตามจับตัวมาได้ เบื้องต้นสามารถตามจับนักพนันได้ 5 คน โดยมีชายอายุ 41 ปี รับเป็นเจ้าของบ้าน และจัดให้มีการเล่นพนันไฮโล พร้อมยึดของกลางอุปกรณ์การเล่น และเงินสดจำนวนหนึ่ง

ตามจับได้อีก 1 เอเย่นต์ค้าเคนมผง ฉายา ‘อั๋นกีวี่’



          การขยายผลตามจับคนที่ขายยาเสพติดในวงปาร์ตี้ เคนมผง ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ในบ้านพักที่พบศพ น.ส.สุทธิณี หรือ มายด์ เมตตาจิตต์ พีอาร์สาวเสียชีวิตในซอยจันทน์ 31​ 



          พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5)  สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ภัตธนสันต์ เก่งเขตรกิจ สว.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังตำรวจในสังกัดบุกเข้าจับกุม นายอมรเทพ เฉลิมวัฒน์ หรือฉายา "อั๋น กีวี่" เอเย่นต์ยาเสพติดคนสำคัญวัย 33 ปี และยังเป็นผู้ต้องหาเครือข่ายค้า ยาเคนมผง โดยสามารถจับกุมได้ห้องพักไม่มีเลขที่ หมู่บ้านใหม่สุขเจริญ หมู่ที่ 13 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์



          การขยายผลสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สอบปากคำ ผู้ต้องหา ​นายทัชชัย​ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ​ จนทราบว่าได้ติดต่อซื้อยาเคนมผง มาจาก น.ส.กุลนที หรือ ฝน เอี่ยมลอย (ถูกจับกุมแล้ว) กับ นายอมรเทพ มาสูดดมกันจนหมดสติไป ตำรวจจึงได้ทำการติดตามตัว นายอมรเทพ เพื่อมาสอบถามจนกระทั่งวันที่ 10 ม.ค.64 นายอมรเทพ ก่อเหตุใช้ปืนยิง น.ส.นภิสา ห่องคำ แฟนสาวของตัวเองที่ห้องพักในซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่) ก่อนจะหลบหนีไป สาเหตุเพราะคิดว่าฝ่ายแฟนสาวขโมยยาเสพติดไปขายเอง 



          ศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับที่ 63/2564 ลงวันที่ 15 ม.ค. 64 ให้จับกุมตัว นายอมรเทพๆ หลบหนีคดียิง น.ส.นภิสา ไปพักกับเพื่อนที่รู้จักกันสมัยถูกจำคุกที่เรือนจำ



          นายอมรเทพ เคยถูกจำคุกตั้งแต่ปี 2548 และถูกปล่อยเมื่อ ม.ค.2560 ในเขตพื้นที่ ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์



          พ.ต.อ.จิรกฤต สั่งการให้ พ.ต.ต.ภัตธนสันต์ นำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.5 เดินทางไปจับกุม นายอมรเทพ ไว้ได้ขณะหลบอยู่บ้านเพื่อนใน อ.บึงสามพัน ก่อนคุมตัวสอบสวนที่ กก.สส.บก.น.5



          นายอมรเทพ ให้การยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุยิง น.ส.นภิศา จริง ส่วนเรื่อง ยาเคนมผง ไม่ได้ทำการผสมเองแต่รับมาจากผู้อื่นอีกทอด โดยตนได้ร่วมกับน.ส.กุลนที เป็นผู้ขายยาเคนมผงให้ผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งการซื้อขายทุกครั้ง น.ส.กุลนที จะเป็นผู้ติดต่อแล้วนำยาไปขายให้ลูกค้า



          อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจาก แนวทางการสืบสวน เชื่อว่า นายอมรเทพ เป็นผู้ผสมสูตรยาเคมนมผงขึ้นมาเอง และจะขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดให้ได้ เบื้องต้น แจ้งข้อหา พยายามฆ่า, พ.ร.บ.อาวุธปืน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย




 

ข่าวทั้งหมด

X