ผู้เสียชีวิตรายที่ 70 อยู่ในกลุ่มสถานบันเทิง ขณะที่สถานการณ์ในกทม.ยังน่าเป็นห่วง

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 11,680 คน โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 8,906 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 70 ราย

           ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายไทย อายุ 67 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ มีไทม์ไลน์คือ

วันที่ 21 ธ.ค. และ 23 ธ.ค.63 ไปเที่ยวที่สถานบันเทิง

วันที่ 24-27 ธ.ค.63 เริ่มมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ และมีน้ำมูก

วันที่ 29 ธ.ค.63 ทราบข่าวว่าพนักงานของสถานบันเทิงที่ไปเที่ยวติดโควิด-19 จึงไปตรวจที่ รพ.

วันที่ 30 ธ.ค.63 ผลตรวจออกมาว่าพบเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ.จนถึงวันที่ 14 ม.ค.64 ในระหว่างการรักษามีอาการปอดอักเสบ และมีอาการแย่ลง ปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้น มีภาวะไตวายฉับพลัน และเสียชีวิตในวันที่ 14 ม.ค. 64

          นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า การระบาดรอบใหม่นี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย บางรายเป็นผู้ที่มีอายุน้อย แต่หากมีโรคประจำตัว ก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ 

          นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยในช่วง 1 เดือน โดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่มคือ

1.กลุ่มบ่อนพนันในภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.63-13 ม.ค.64 มีผู้ป่วย 702 คน เสียชีวิต 2 ราย สัดส่วนของผู้ป่วยเพศชายต่อเพศหญิงคือ 1 : 1.13

2.กลุ่มสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63-13 ม.ค.64 มีผู้ป่วย 197 คน เสียชีวิต 1 ราย สัดส่วนผู้ป่วยเพศชายต่อเพศหญิงคือ 1 : 1.26

3.กลุ่มสนามชนไก่ในอ่างทอง ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.63-13 ม.ค.64 มีผู้ป่วย 129 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต และสัดส่วนของผู้ป่วยเพศชายต่อเพศหญิงคือ 1 : 0.34

4.กลุ่มตลาดกลางกุ้งในสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.63-13 ม.ค.64 มีผู้ป่วย 564 คน (ไม่รวมแรงงานต่างด้าว) และทำให้มีผู้ป่วยที่เป็นผู้สัมผัสกระจายไป 43 จังหวัด สัดส่วนผู้ป่วยเพศชายต่อเพศหญิงคือ 1 : 1.03

          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่าสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีความน่ากังวล เนื่องจากตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแต่ละวันยังอยู่ในระดับตัวเลข 2 หลัก โดยพบผู้ป่วยรายวันมากที่สุดคือ 49 คนเมื่อวันที่ 7 มกราคม แม้ว่าจะมีมาตรการควบคุมตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม สาเหตุหนึ่งคือการที่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลายคนที่ไม่แสดงอาการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้มีการแพร่เชื้อออกไปในวงกว้าง จึงแนะนำว่าผู้มีประวัติเสี่ยงสูงรีบไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งจะต้องตรวจ 2 ครั้งจึงจะได้ผลที่ชัดเจน และระหว่างที่รอผลตรวจ ขอให้กักตัวอยู่บ้านไม่ควรออกไปยังสถานที่ต่างๆ ขณะเดียวกัน การกักตัวอยู่ที่บ้านก็ควรแยกห้องพักและไม่รับประทานอาหารร่วมสำรับกับบุคคลในบ้านด้วย

....