สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่ามีบุคคลมากกว่า 2,000 คนที่ถูกขึ้นบัญชีห้ามบิน (no-fly lists) ภายในประเทศ ซึ่งมีทั้งผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด-19 และมีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงก่อเหตุวุ่นวาย รวมถึงเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯบุกรุกก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อ 6 มกราคมที่ผ่านมา เฉพาะในสัปดาห์ที่แล้ว สายการบินขึ้นบัญชีบุคคลอีกมากกว่า 60 คนซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าช่วงเวลาอื่น
ด้านสายการบินอแลสกา แอร์ไลน์ส ขึ้นบัญชีผู้โดยสารจำนวน 14 คนในเที่ยวบินจากกรุงวอชิงตันมายังนครซีแอตเติล เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรการสวมหน้ากาก รวมทั้งยังคุกคามลูกเรือบนเที่ยวบินนั้นด้วย
สมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Association of Professional Flight Attendants) ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของลูกเรือ จากเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นมากในช่วงนี้ ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารร่วมเที่ยวบินเดียวกันต้องเผชิญหน้ากับผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวจากแรงจูงใจทางการเมือง โดยเฉพาะการฝ่าฝืนมาตรการสวมหน้ากากบนเครื่องบิน แต่ทางสมาคมยืนยันว่าพนักงานจะต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อเตือนให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการต่อไป
เมื่อ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีผู้โดยสารสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากกรุงวอชิงตันไปเมืองฟินิกส์ แอริโซนา เผยแพร่คลิปขณะที่กัปตันเครื่องบินเตือนผู้โดยสารว่าจะนำเครื่องบินลงจอดที่แคนซัส หากผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากในระหว่างการเดินทาง
เมื่อวันที่ 17 มกราคม มีคลิปเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่เดินทางจากเมืองชาร์ล็อตต์ นอร์ท แคโรไลนามายังกรุงวอชิงตัน ไม่สวมหน้ากากและตะโกนต่อว่าพนักงานที่บอกให้สวมหน้ากากว่าเป็นเผด็จการ ซึ่งต่อมาสตรีรายนี้ก็ถูกขึ้นบัญชีห้ามบิน
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่สนามบินนานาชาติโรนัลด์ เรแกน วอชิงตัน ขณะที่กลุ่มผู้โดยสารซึ่งไม่ได้สวมหน้ากากกำลังคุกคามกลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินซึ่งบางคนเป็นคนผิวสี
นอกจากนี้สายการบินและสนามบินในสหรัฐฯ ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากในวันที่ 20 มกราคมนี้ จะมีพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเพิ่มการตรวจอาวุธและห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในระหว่างวันที่ 16-21 มกราคม และบังคับการสวมหน้ากากอย่างเคร่งครัด โดยอแลสกา แอร์ไลน์ส ประกาศว่าผู้ฝ่าฝืนมาตรการจะถูกปรับเงิน 15,000 ดอลลาร์
สำนักงานควบคุมการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือเอฟเอเอ ออกคำเตือนว่าจะมีบทลงโทษที่รุนแรงต่อผู้ที่มีพฤติกรรมทำลายความปลอดภัยบนเที่ยวบิน โดยมีโทษสูงสุด คือ ปรับไม่เกิน 35,000 ดอลลาร์ และโทษจำคุก
....
VOA