ผู้พิพากษาคิม มิ-คยุงจากศาลแขวงซูวอน ทางตอนใต้ของกรุงโซล เกาหลีใต้ มีคำตัดสินว่านายลี แมน-ฮี อายุ 89 ปี ผู้นำโบสถ์คริสต์ชินชอนจี (Shincheonji)และผู้บริหารองค์กรอีก 11 คน ไม่มีความผิดฐานละเมิดกฎหมายควบคุมโรคระบาด แต่มีความผิดในข้อหาอื่นๆคือยักยอกทรัพย์จำนวน 5,600 ล้านวอน และไม่ให้ความร่วมมือกับการบริหารกิจการของรัฐ ตัดสินจำคุก 3 ปี แต่รอลงอาญาไว้ก่อน โดยให้คุมประพฤติ 4 ปี ห้ามทำความผิดซ้ำ โดยสาเหตุที่ไม่มีความผิด เนื่องจากการขอข้อมูล เช่นรายชื่อผู้ไปโบสถ์ เป็นการขอความร่วมมือเพื่อใช้ในการสอบสวนโรคเท่านั้น ไม่ใช่การสำรวจในเชิงระบาดวิทยาอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้โบสถ์คริสต์ชินชอนจีของนายลีถูกกล่าวหาว่าเป็นศูนย์กลางการแพร่โรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว พบผู้ป่วยจากกลุ่มนี้ 4,000 คนหรือ ร้อยละ 36 ของผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ สร้างความไม่พอใจให้กับสาธารณชนในเกาหลีใต้ ต่อมาเทศบาลกรุงโซลได้ยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ให้ดำเนินคดีกับนายลีและผู้นำองค์กรอีก 11 คน ในหลายข้อหา เช่น ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและละเมิดกฎหมายควบคุมโรค
นายลี ถูกจับกุมในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังการสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนกล่าวหานายลีและผู้บริหารองค์กรศาสนาว่าปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้เข้าโบสถ์และการจัดพิธีทางศาสนา ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีปัญหาในการติดตามกลุ่มเสี่ยงเพื่อกักกันเฝ้าระวังและถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์และจัดกิจกรรมทางศาสนาโดยไม่ขออนุญาตต่อหน่วยงานท้องถิ่น
Cr: BBC