นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เคตามีน (ketamine) เป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการมึนเมา เพลิดเพลิน มีความสุข เกิดภาพเหมือนฝัน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศหรือหลุดลอยออกจากร่าง ซึ่งฤทธิ์ของยาเคในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการหวาดระแวงจิตหลอน จำอะไรไม่ได้ ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนเป็นอัมพาตชั่วขณะ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาทางสมองเกี่ยวกับความทรงจำและสมาธิ มีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้และปัญหาทางจิต กลายเป็นคนวิกลจริต
ในปัจจุบันพบว่ากลุ่มวัยรุ่นนำยาเค ผสมกับสารเสพติดอื่นอีกหลายชนิด เช่น ไอซ์ เฮโรอีน ยานอนหลับ(โรเซ่) นำมาผสมกันจนมีลักษณะละเอียดคล้ายนมผงแล้วนำมาเสพ จึงถูกเรียกว่า “เคนมผง” เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายทำให้ผู้เสพมีอาการรุนแรง ประสาทหลอน คิดว่าจะถูกทำร้ายเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท
ทั้งนี้ การเสพ “เคนมผง” ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ผู้เสพเสียชีวิต และสามารถเกิดขึ้นได้แม้จะเสพเป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนี้พบผู้เสียชีวิตที่อาจเกิดจากการเสพ เคนมผง จำนวนหลายราย ในบางรายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวเพิ่มเติมว่า เคนมผง มีสารเสพติดที่ออกฤทธิ์รุนแรงหลายชนิด หนึ่งในส่วนผสมนั้นคือเฮโรอีน ซึ่งออกฤทธิ์รุนแรงในทางกดประสาท หากเสพเฮโรอีนมากเกินความต้านทานของร่างกายอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นถึงเสียชีวิตได้
ขอย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้ที่คิดจะทดลองใช้ ยาเคนมผง รวมไปถึงสารเสพติดชนิดอื่น ให้ตระหนักถึงอันตรายต่อตนเองอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต และนึกถึงผลกระทบต่อครอบครัวที่จะตามมา
หากพบว่าบุตรหลานหรือคนใกล้ชิดมีการเสพยา ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และสามารถขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดได้ที่สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษาที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี