ผบ.ตร.กำชับทุกพื้นที่ สืบ-สอบ แหล่งที่มา ‘เคนมผง’ หลังยอดเสพแล้วตายพุ่ง

          หลังพบผู้เสียชีวิตจากการเสพสารเสพติด ‘เคนมผง’ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. เรียกพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5(ผบก.น.5)พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5(ผกก.สส.บก.น.5) เข้ารายงานข้อมูลเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการเสพสารเสพติด หลายรายในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

          พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเรียกมาฟังความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นอาจมีผู้มาจำหน่ายให้ หรือมีแหล่งไปเสพร่วมกัน ต้องไปขยายผล ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันองค์ประกอบของสารตามที่เป็นข่าวว่า เป็นเคตามีนผสมยานอนหลับ เพราะต้องรอผลรายงานแพทย์ แต่ในชั้นนี้เคตามีนเป็นยาที่ใช้ในห้องผ่าตัด เมื่อมาแปลงสภาพใช้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท จึงได้กำชับเรื่องควบคุมการจำหน่าย ให้ บช.น. กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (ภ.1-9) กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด หรือ (บช.ปส.) และต้องลงไปดูเรื่องแหล่งจำหน่าย รวมทั้งสารบางตัวนอกจากต้องใช้ใบสั่งแพทย์ อาจนำเข้ามาตามแนวชายแดน บางคนเรียกว่า โคนาซีแพม หรือ เซ่หนอน นำไปผสมเฮโรอีน พาราเซตามอล  อะไรที่สามารถควบคุมแหล่งจำหน่ายได้  ต้องเร่งดำเนินการ เช่น ตามแหล่งจำหน่ายเปิด ร้านขายยา ได้ควบคุมตามกฎหมายหรือไม่ เพราะยาบางตัว ซื้อขายได้หากมีใบสั่งแพทย์ 

          สำหรับพื้นที่นครบาลได้สั่งการให้ทุกโรงพักต้องลงไปตรวจสอบพื้นที่ สืบสวนแบบเปิดเผยและเชิงลึกหากมีการจำหน่ายต้องตามหาตัวผู้ขายให้ได้ ทั้งแหล่งที่มีการซื้อขายและแหล่งที่ไปเสพ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์เสพยา ภายในวันเดียวและเสียชีวิตหลายราย โดยเฉพาะ สน.วัดพระยาไกร ท้องที่เดียว 5 ราย เชื่อว่าตัวยาบางส่วนอาจนำเข้าผิดกฎหมาย การควบคุมพวกนี้หากหละหลวมต้องไปขันน็อตกันใหม่