ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564

เร่งกู้! อินโดฯ พบตำแหน่งกล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบินศรีวิจายาแอร์แล้ว

          ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่พบตำแหน่งของกล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737-500 สายการบินศรีวิจายาแอร์ สายการบินราคาประหยัด เที่ยวบิน SJ182 ขึ้นบินจากสนามบินในกรุงจาการ์ตา พร้อมคนบนเครื่อง 62 คน ได้เพียง 4 นาที และหายไปจากจอเรดาร์และพบว่าตกในทะเลชวา ขณะที่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คาดว่า เร็วๆนี้ จะกู้ขึ้นมาได้ เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่เครื่องบินตกในทะเล

          ส่วนซากที่พบหลายชิ้น ส่งไปที่กรุงจาการ์ตาแล้ว พบในทะเลลึก 23 เมตร ใกล้หมู่เกาะท่องเที่ยวไม่ห่างจากชายฝั่งกรุงจาการ์ตา มีทั้งซากโลหะบิดเบี้ยวทาสีน้ำเงิน-แดงที่เป็นสีของศรีวิจายาแอร์ ชิ้นส่วนศพ เสื้อผ้าและของใช้ของคนบนเครื่องบิน

          ตำรวจขอให้ครอบครัวผู้สูญหายให้ข้อมูล เช่น ประวัติการทำฟัน และให้ตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล

          ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี ของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องจะพยายามจนถึงที่สุด เพื่อค้นหาและกู้ซากเครื่องบินให้ได้

          ศรีวิจายาแอร์ เป็นสายการบินราคาประหยัด ตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 อยู่ในกรุงจาการ์ตา ส่วนใหญ่บินระหว่างเกาะต่างๆ ในประเทศ ที่ผ่านมามีประวัติการบินค่อนข้างปลอดภัย เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้งแต่ไม่มีคนเสียชีวิตบนเครื่อง รายงานระบุว่า นักบินบนเครื่องมีประสบการณ์ยาวนานนับสิบปี กัปตันเป็นอดีตนักบินกองทัพอากาศ และทำงานร่วมกับผู้ช่วยนักบินในสายการบินแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2013

          โบอิ้ง แถลงว่า ได้ติดต่อกับสายการบินศรีวิจายาแอร์แล้ว และพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่

          เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียครั้งแรกนับจากที่เครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ของไลอ้อน แอร์ ตกลงในทะเลชวาไม่นานหลังออกจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา เมื่อปี 2018 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 รายเสียชีวิต 

CR:CNN ,BBC

โพลล์เกียวโด เผย คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่อยากให้จัดโตเกียวโอลิมปิก ฤดูร้อนนี้

          เกียวโดนิวส์ จัดทำผลสำรวจความคิดเห็น พบว่า ชาวญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 80 อยากให้เลื่อนหรือยกเลิก การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในกรุงโตเกียวออกไปอีกครั้ง

-ร้อยละ 35.3 อยากให้ยกเลิกการจัดโตเกียวโอลิมปิก

-ร้อยละ 44.8 อยากให้เลื่อนการจัดงานออกไปอีกครั้ง

          เมื่อปีที่แล้ว มีการเลื่อนการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกออกไปก่อนมาเป็นปีนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

          ผลสำรวจ พบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ ลดลง 9 จุด จากการสำรวจครั้งก่อนหน้าเมื่อเดือนธ.ค. 2563 มาอยู่ที่ร้อยละ 41.3 ในการสำรวจครั้งนี้ ขณะที่ประชาชนมีความไม่พอใจมาตรการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลพุ่งขึ้นแตะระดับร้อยละ 68.3

นายกฯญี่ปุ่น ขอเวลา 2-3 วัน พิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติม

          นายกฯ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลจะใช้เวลา 2-3 วันในการพิจารณาว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงในจังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโงะ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้แนะนำให้ทั้ง 3 จังหวัด ดำเนินมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึง การลดเวลาเปิดบริการของร้านอาหาร และส่งเสริมการทำงานจากที่บ้าน

          นายสึกะ ระบุว่า รู้ว่าประชาชนกำลังเครียด และรัฐบาลก็พร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทันทีหากมีสถานการณ์จำเป็น

กัมพูชา พบแรงงานกลับจากไทยติดโควิด-19 เพิ่มอีก 4 คน

          กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เปิดเผยว่า พบแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับจากไทย มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกเพิ่มเติมอีก 4 คน ทำให้ยอดแรงงานที่ติดเชื้อจากไทยรวมอยู่ที่ 26 คน แรงงานทั้งสี่คนเป็นผู้หญิง มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และได้เดินทางกลับมาที่กัมพูชาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 ผ่านด่านชายแดน โฆษกหญิงประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดบันเตียเมียนเจย

          ด้านทางการท้องถิ่น เปิดเผยว่า มีแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศมาแล้วมากกว่า 6,000 คน หลังจากที่ไทยยืนยันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาคร

          ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนม.ค.2563 กัมพูชามีผู้ป่วยสะสม 391 คน รวมถึงผู้ป่วยที่หายดีแล้ว 371 คน ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต

ทหารเวียดนาม เสริมกำลังตามแนวชายแดน รวบคนลอบเข้าประเทศมากกว่า 30,000 คน  

          เมื่อปีที่แล้ว กองกำลังชายแดนเวียดนาม ควบคุมตัวคนที่พยายามเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายได้มากถึง 31,460 คน เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 พล.ต.เหวียน ซวน เกียน ผู้อำนวยการกรมการแพทย์ทหาร ระบุว่า คนที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย กว่า 25,000 คน เดินทางมาจากจีน ส่วนที่เหลือมาจากลาวและกัมพูชา

          เมื่อเดือนมี.ค. 2563 เวียดนาม ปิดพรมแดนของประเทศ และไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นคนที่ถือหนังสือเดินทางการทูตและราชการหรือแรงงานทักษะสูง แต่พบว่ายังมีคนจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้ประเทศมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่เชื้อในชุมชน

          เจ้าหน้าที่ประจำตามแนวชายแดน สอบสวนผู้ต้องสงสัยอีก 153 คน ในข้อหาดำเนินการจัดการเข้าและออกเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย

          รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม สั่งการให้เสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการเข้าประเทศผิดกฎหมาย เนื่องจาก ชาวเวียดนามจำนวนมากที่ทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา ไทย และจีน จะพยายามเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลวันตรุษกลางเดือนก.พ.2564 และเนื่องจากการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศผ่านด่านชายแดนหลัก ทำให้หลายคนพยายามเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย

          ทหารมากกว่า 7,000 นาย ประจำการตามจุดตรวจ 1,600 จุด ตามแนวพรมแดนจีน ลาว และกัมพูชา หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว มีชาวเวียดนาม 9 คน ลักลอบเดินทางเข้าประเทศจากเมียนมาผ่านทางกัมพูชา และ 4 คนในนั้นพบติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ทางการเพิ่มการควบคุมตามด่านชายแดนและเส้นทางธรรมชาติเข้มงวดยิ่งขึ้น

         สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้นในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่เวียดนามประสบความสำเร็จในการจำกัดวงการระบาด ทำให้ชาวเวียดนามจำนวนมากต้องการเดินทางกลับประเทศ

สเปน เผชิญความหนาวเหน็บ พายุฟิโลเมนา ทำให้หิมะตกหนักที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

          รัฐบาลสเปน จะใช้ขบวนรถลำเลียงวัคซีนต้านโควิด-19 และอาหารไปยังพื้นที่ที่ถูกตัดขาดเพราะพายุ ฟิโลเมนา ทำให้หิมะตกหนักที่สุดในรอบหลายทศวรรษทั่วภาคกลาง และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

          กระทรวงคมนาคมสเปน แถลงว่า ถนนทั่วภาคกลางของประเทศ รวมระยะทางยาว 20,000 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบจากพายุ

          -หญิงวัย 36 ปีคนหนึ่งต้องคลอดลูกในรถพยาบาลที่ไม่สามารถเดินทางไปถึงโรงพยาบาลได้ทัน

          -ชายหญิงคู่หนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกแม่น้ำล้นตลิ่งซัดรถจมน้ำ

         - มีคนไร้บ้านสองคนหนาวตาย

          -เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยคนที่ติดอยู่ในรถราว 1,500 คนในกรุงมาดริดและพื้นที่ใกล้เคียง

          ขณะที่ตำรวจต้องขัดขวางประชาชนขว้างหิมะใส่เจ้าหน้าที่ที่ขอร้องให้อยู่บ้าน เพราะสภาพอากาศเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุและการแพร่เชื้อไวรัส

          เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า หิมะที่ตกหนักในกรุงมาดริด หนา 20-30 เซนติเมตร เมื่อวันเสาร์ หนาที่สุดนับจากปี 2514 พร้อมกับเตือนว่า สภาพอากาศจะอันตรายขึ้นอีกในช่วงหลายวันข้างหน้า อุณหภูมิอาจติดลบถึง 10 องศาเซลเซียส หิมะจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง ต้นไม้เสี่ยงล้มเพราะรับน้ำหนักหิมะไม่ไหว