ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564

08 มกราคม 2564, 06:20น.



ดูแลเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอาการรุนแรง คนไทย 152 คนที่ติดโควิด-19 ในเกาหลีใต้



          นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการดูแลคนไทย 152 คน ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในร้านขายอาหารไทยในเมืองชอนัน จ.ชุงชอง ว่าได้นำผู้ติดเชื้อไปกักตัวในสถานที่กักกันโรคในเมืองต่างๆ ของ จ.ชุงชองเหนือ และจ.ชุงชองใต้ เช่นที่เมืองชอนัน เมืองอึมซอง เมืองชองจู เมืองฮงซอง เมืองอาซาน แล้ว ขณะเดียวกันมีคนไทยอีกส่วนหนึ่งกักตัวเองอยู่ที่บ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเกาหลีใต้ดูแลและติดตามอาการของคนไทยทั้งหมดอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนไทยที่ติดเชื้อคนใดมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง 



          เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2564 ทางการเกาหลีใต้ ประกาศมาตรการยกระดับการคัดกรองคนเข้าเมือง โดยกำหนดให้คนต่างชาติต้องนำผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PCR Test ที่มีผลเป็นลบ และมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าเกาหลีใต้ มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินก่อนขึ้นเครื่องบิน และแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานควบคุมโรคเมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้แล้ว 



CDC พบคนที่ฉีดวัคซีนจากไฟเซอร์มีอาการข้างเคียง  4,400 คน



          หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) อนุมัติการใช้งานวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2563 แบ่งฉีดเป็น 2 โดส ห่างกัน 21 วัน โดยมีผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรกแล้ว 1,893,360 คน เมื่อนับถึงวันที่ 23 ธ.ค.2563



ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานว่า



-คนที่ได้รับวัคซีนแล้วมีอาการข้างเคียง 4,400 คน



-21 คน ยืนยันว่า มีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน



-17 คน ใน 21 คน มีประวัติการแพ้หรืออาการแพ้ และ 7 คน ในกลุ่ม 17 คนเคยมีประวัติอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันอยู่แล้ว



          CDC ระบุว่า อาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน เป็นอาการแพ้ที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักหลังการฉีดวัคซีน โดยปกติแล้วจะเริ่มมีอาการภายในไม่กี่นาทีถึงชั่วโมง พร้อมทั้งเรียกร้องให้สถานที่ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้วัคซีนอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองประวัติผู้เข้ารับวัคซีน จัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับรักษาอาการภูมิแพ้ สังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่แนะนำ และรักษาผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้ทันทีโดยการฉีดอะดรีนาลีนเข้ากล้ามเนื้อ




แกนนำเดโมแครต เรียกร้องปลด ‘ทรัมป์’ หลังปลุกม็อบบุกสภาคองเกรส




          สถานการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นที่กรุงวอชิงตันดี.ชี.หลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ บุกเข้าไปในภายในอาคารรัฐสภา จนทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องใช้แก๊สน้ำตายิงสกัดและมีความรุนแรงเกิดขึ้นจนทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 4 ราย เจ้าหน้าที่บาดเจ็บกว่า 10 นาย ควบคุมตัวผู้ชุมนุมไปจำนวนหนึ่ง หลังจากเหตุการณ์สงบลง ที่ประชุมสภาคองเกรส กลับมาประชุมและรับรองให้นายไบเดน เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่อย่างเป็นทางการ เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 ม.ค.2564



          นายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปลดนายทรัมป์ ออกจากตำแหน่งทันที หลังจากที่เขาได้ยุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน พร้อมทั้งระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยุยงปลุกปั่นของนายทรัมป์ จึงไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนานกว่านี้แม้แต่วันเดียว ควรถูกปลดโดยเร็วที่สุด



          นายชูเมอร์ ระบุว่า นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรจะใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 เพื่อถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งหากนายเพนซ์และคณะรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะดำเนินการดังกล่าว สภาคองเกรสก็ควรจะจัดการประชุมเพื่อถอดถอนนายทรัมป์



          ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เรียกร้องให้ถอดถอนนายทรัมป์ พ้นจากตำแหน่งทันที ตามบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 ที่อนุญาตให้รองประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรี สามารถทำหนังสือแจ้งต่อสภาคองเกรสเพื่อขอถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง ในกรณีที่เชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ ไม่สามารถใช้อำนาจและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม

ทั่วโลก ประณามเหตุจลาจลในสหรัฐฯ



ท่าทีของทั่วโลกแสดงความคิดเห็นประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  



-จีน: สื่อของจีน รายงานและภาพเปรียบเทียบเหตุการณ์ชุมนุมในฮ่องกง กับเหตุจลาจลในสหรัฐฯ ขณะที่ นางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกทำนองนี้ โดยกล่าวว่า ปฏิกิริยาของบางคนในสหรัฐฯ รวมทั้งของบางสื่อต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงและในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ช่างมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง



-อังกฤษ:นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ช็อกกับเหตุการณ์ในสหรัฐฯ และ ประณามว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าอับอาย

-เยอรมัน:นายกฯอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี บอกว่า รู้สึกโกรธและเศร้าใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกว่านายทรัมป์ ควรต้องถูกประณามด้วย เนื่องจากไม่ยอมรับความพ่ายแพ้



-สหภาพยุโรป: นายโจเซป บอร์เรลล์ ประธานนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป(อียู) เรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการโจมตีทำร้ายประชาธิปไตยสหรัฐฯ สถาบันต่างๆ ของสหรัฐฯและหลักนิติธรรม ควรเคารพผลการเลือกตั้ง



-ฝรั่งเศส: ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แถลงว่า เราจะไม่ยอมแพ้ต่อความรุนแรงของคนไม่กี่คนที่ต้องการตั้งคำถาม ต่อประชาธิปไตย พร้อมกับเสริมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ไม่ใช่อเมริกัน

-รัสเซีย:นายมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของสหรัฐฯ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าระบบเลือกตั้งในสหรัฐฯล้าสมัย ไม่ได้มาตรฐานของประชาธิปไตยสมัยใหม่ สื่อมวลชนอเมริกันก็กลายเป็นเครื่องมือของการต่อสู้ทางการเมือง นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้สังคมเกิดการแตกแยกในสหรัฐฯ



-อิหร่าน : ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี  เปิดเผยว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในรัฐสภาสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยตะวันตกนั้นเปราะบางและอ่อนแอ




หุ้นสหรัฐฯทุบสถิติปรับสูงสุด น้ำมันขึ้น- ทองฟื้น




           จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตลาดน้ำมันโลกขยับราคาลงในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อปิดตลาดปรับราคาขึ้น โดยมีปัจจัยหลักในกรณีที่ซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าจะปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติมอีก 1,000,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนก.พ.และมี.ค.2564

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.พ.2564 เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 50.83 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมี.ค.2564 เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 54.38 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล 



          เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันที่ 7 ม.ค.2564  ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุบุกโจมตีรัฐสภา นักลงทุน คาดหมายว่า สภาคองเกรสที่พรรคเดโมแครต กุมเสียงข้างมาก จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯฟื้นขึ้นจากวิกฤตโควิด-19



-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 211.73 จุด หรือร้อยละ 0.69 ปิดที่ 31,041.13 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 55.65 จุด หรือร้อยละ 1.48 ปิดที่ 3,803.79 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 326.69 จุด หรือร้อยละ 2.56 ปิดที่ 13,067.48 จุด



         ทั้งดัชนีดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และ แนสแดค ต่างทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้ถอดถอนนายทรัมป์ ออกจากตำแหน่งก่อนพ้นวาระ



          ราคาทองคำ ปิดตลาดวันที่ 7ม.ค.2564 ปิดบวกพอสมควร ฟื้นตัวจากที่เมื่อวานนี้ขยับลงอย่างหนัก



-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน ก.พ. 2564 เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,913.60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์




 

ข่าวทั้งหมด

X