ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม 2564

07 มกราคม 2564, 13:11น.



โฆษกศบค.ย้ำหากพบผู้ติดเชื้อ ไม่โหลดแอปฯหมอชนะ จะมีบทลงโทษ  



          หลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการเข้มข้นให้คนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี จันทบุรี ระยอง และตราด ที่จะต้องมีเอกสารที่รับรองเรื่องการเดินทาง ทำให้เกิดความโกลาหลที่ที่ว่าการอำเภอ เช่น ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากผู้มาติดต่อขอใบอนุญาตไม่เข้าใจขั้นตอนในการขอ ทำให้เกิดความล่าช้า เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายแต่ละคนยิ่งทำให้เสียเวลา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยืนยันว่า ไม่ต้องเดินทางไปขอหนังสือรับรองถึงจังหวัดหรือ อำเภอ สามารถให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ นายจ้าง สามารถที่จะเซ็นในจดหมายที่เป็นแบบฟอร์มและลงนามกำกับได้เลย เช่น คนนี้เดินทางจากพื้นที่นี้ไปส่งของที่สถานที่นี้ทุกวัน ในช่วงระหว่างวันที่ และเวลา ย้ำว่า ในพื้นที่ 5 จังหวัดจะต้องมีเอกสารรับรอง



          ส่วนการโหลดแอปพลิเคชัน หมอชนะ เป็นแอปฯที่ทุกคนต้องโหลดติดไว้ในโทรศัพท์มือถือ และหากมีการตรวจสอบว่า หากพบว่าคนติดเชื้อไม่มีแอปฯนี้ ถือว่าละเมิดประกาศและจะมีบทลงโทษ เนื่องจากไม่สามารถติดตามไทม์ไลน์ได้     



         ส่วนความจำเป็นในการเปิดเผยไทม์ไลน์ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีความจำเป็นที่ควรต้องเปิดเผยในกรณีที่จังหวัดมีจำนวนผู้ป่วยน้อย เพื่อที่จะได้รู้อาการ ประวัติ เพราะเป็นโรคติดต่อ บางจังหวัดที่ไม่สามารถบอกได้ มีหลายสาเหตุ เช่น มีจำนวนผู้ป่วยมาก ขั้นตอนการสอบถามอาการประวัติแต่ละคนกำลังทำอยู่แต่คนไม่ให้ความร่วมมือ เป็นปัญหาหนักมาก เนื่องจาก มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ชุดข้อมูลได้ยากมาก บางจังหวัดกำลังทำอยู่แต่เมื่อดำเนินการสอบถามประวัติไปแล้ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกและไม่รู้ต้นตอแห่งที่มาที่ไปของการติดเชื้อที่ชัดเจน จึงต้องซักถามผู้ป่วยให้ละเอียดก่อนออกไทม์ไลน์



          นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ขอกำลังใจให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เดินทางไปช่วยทำงานที่ จ.สมุทรสาคร ขอให้ทุกคนช่วยกันเว้นระยะห่าง 





สั่งย้ายด่วน! นอภ.ป่าโมก-นอภ.เมืองชุมพร จากพิษบ่อนไก่ชน



          กรมการปกครอง มีหนังสือตามคำสั่งกรมการปกครองที่ 20/2564 ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 ย้ายข้าราชการในพื้นที่ จ.อ่างทอง และ จ.ชุมพร



-สั่งย้ายน.ส.เบญจวรรณ ฟักแก้ว นายอำเภอป่าโมก จ.อ่างทอง ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนด




          ด้านนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง สั่งเพิ่มความเข้มข้นมาตรการการตั้งด่านคัดกรองกลุ่มคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง จะต้องลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ส่วนรถโดยสารสาธารณะทุกคันที่มาจากต่างพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจคัดกรอง และขอความร่วมมือประชาชนในชุมชน หากพบว่ามีผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงขอให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทันที



          ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น  จังหวัดอ่างทอง เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง และ Local quarantine 4 แห่ง  กระจายอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.โพธิ์ทอง เพื่อเตรียมพร้อมหากมียอดผู้ติดเชื้อและกลุ่มผู้สังเกตอาการเพิ่มมากขึ้น



-สั่งย้าย นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร (ผู้อำนวยการระดับสูง) ไปช่วยราชการกรมการปกครอง โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่วิทยาลัยการปกครอง เป็นการประจำ ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง



          การสั่งย้ายดังกล่าว เนื่องจาก ปล่อยให้มีการเปิดบ่อนไก่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 จน จ.ชุมพร ถูกยกระดับเป็นพื้นที่สีแดงให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการแพร่ระบาด จากกลุ่มบุคคลจำนวนมากที่เข้าไปเล่นพนันชนไก่



          รายงานระบุว่า จ.ชุมพร มีสนามชนไก่ที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด 18 แห่ง จากพื้นที่ 8 อำเภอ เมื่อเดือน ธ.ค.2563 จังหวัดได้ออกใบอนุญาตให้มีการเปิดสนามชนไก่เป็นกรณีพิเศษ ให้เปิดสนามชนไก่ได้แห่งละ 1 วัน โดยสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ตั้งแต่วันที่ 1-30 ธ.ค. 2563



นำตัวกลุ่มนักพนันที่ จ.นครพนม เข้าสถานที่กักขัง  



          หลังจากที่คืนวันที่  5 ม.ค.2564 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าตรวจสอบจับกุมเซียนพนัน ลักลอบเล่นพนันบ่อนไพ่ ในบ้านพักหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม สามารถจับกุมเซียนพนันได้ 10 คน พร้อมอุปกรณ์การพนันหลายรายการ ควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหา



1.ร่วมกันเล่นการพนันไพ่ต่างๆ(ไพ่คอยคู่) พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต 



2.ร่วมกันชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกันในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) 



          ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณาตามคำฟ้องของพนักงานสอบสวน เห็นว่าจำเลยทั้ง 10 คน มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จึงพิพากษาให้จำคุก 14 วัน โดยโทษจำคุกให้เป็นกักขังแทน ทำให้จำเลยทั้งหมดต้องถูกควบคุมตัวไปสถานที่กักขัง เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม และอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่กักตัวตามมาตรการ พร้อมทั้งยืนยันว่าจังหวัดนครพนม ยังมีมาตรการเข้มในการป้องกันควบคุม ทั้ง 12 อำเภอ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรอง ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยง ยังต้องกักตัว 14 วัน ยืนยันปัจจุบันยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19




สภาคองเกรส กลับมาประชุมอีกครั้ง-ผู้นำพรรคเดโมแครต ชี้ ‘ทรัมป์’ ต้องรับผิดชอบเหตุจลาจล



          สภาคองเกรสกลับเข้าสู่การประชุมอีกครั้ง เพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่การประชุมต้องหยุดพักไปนานกว่า 6 ชั่วโมงเนื่องจากผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและก่อเหตุบุกรุกเข้าไปจนถึงห้องประชุม มีการทำลายทรัพย์สินในอาคาร ทำให้บรรดาสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติต้องหลบหนี จากนั้นในเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจรัฐสภา ประกาศว่าอาคารรัฐสภาปลอดภัยแล้ว และสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติได้เข้าห้องประชุมเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด



          นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะประธานการประชุมร่วม กล่าวว่า การที่สมาชิกทั้งหมดกลับมาร่วมการประชุมอีกครั้ง คือการแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความเข้มแข็งของประชาธิปไตยของสหรัฐฯ และสำหรับผู้ที่สร้างความเสียหายในวันนี้ เขากล่าวว่า ความรุนแรงไม่มีวันได้รับชัยชนะ




          นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครต ในวุฒิสภา กล่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องแบกรับความผิดที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา ที่สร้างรอยด่างต่อประชาธิปไตยของประเทศ ทั้งประณามว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดขึ้นเพราะประธานาธิบดีที่ส่งเสริมทฤษฎีสมคบคิด ปลุกระดมให้กลุ่มอันธพาลก่อเหตุขึ้น และควรถูกดำเนินคดีอย่างรุนแรงที่สุดตามกรอบของกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงทำเนียบขาว ทยอยลาออก




          จากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในแคปิตอลฮิลล์ และอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่หลายคนในทำเนียบขาวได้ยื่นหนังสือลาออก และอีกหลายคนเปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่ากำลังพิจารณาลาออก ในกลุ่มที่ยื่นหนังสือลาออกแล้วคือ นางสเตฟานี กริแชม หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งระบุในหนังสือลาออกว่านับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ชาติในทำเนียบขาว และมีความภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของนางเมลาเนีย ทรัมป์ ในการช่วยเหลือเด็ก ๆ ในสถานที่ต่างๆ นางกริแชม เคยทำหน้าที่เป็นโฆษกทำเนียบขาวประมาณ 1 ปี จึงมาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง



         ในกลุ่มที่ยื่นหนังสือลาออกแล้วยังมีนางริกกี้ นิเซตา เลขาธิการด้านสังคมของทำเนียบขาว, นางซาราห์ แมททิว รองเลขาธิการทำเนียบขาว



          ด้านนายโรเบิร์ต โอไบรอัน และนายแมทธิว พอตติงเกอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ก็ยอมรับว่ากำลังพิจารณาลาออกเช่นกัน โดยนายโอไบรอัน กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯแล้ว และมีความภูมิใจที่ได้ทำงานรับใช้นายเพนซ์



          เหตุรุนแรงที่แคปิตอลฮิลล์ เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนของเขาที่สวนสาธารณะในวอชิงตัน โดยย้ำว่าเขาถูกโกงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2563 และอ้างว่ามีการสมคบคิดเพื่อขัดขวางการดำรงตำแหน่งของเขา จากนั้นก็ปลุกระดมให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนไปที่แคปิตอลฮิลล์ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่กี่นาทีผู้สนับสนุนของเขาก็บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา จนถึงห้องประชุมและห้องทำงานของประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จ นอกจากนี้กลุ่มผูุ้สนับสนุนของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังมีการรวมกลุ่มชุมนุมในอีกหลายเมืองแต่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น



เหตุจลาจล ทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 4 ราย ตร.เจ็บ 14 นาย  



          ตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย จากการบุกรุกอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางการประชุมสภาคองเกรส ขณะที่กำลังมีการตรวจสอบการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรับรองนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป



-ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นผู้หญิง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง เนื่องจากอยู่ในกลุ่มผู้ที่พยายามบุกรุกเข้าไปในห้องประชุม เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอาวุธ พวกเขาปฏิเสธที่จะล่าถอยกลับไปตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่จึงถูกยิง



-ผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย แบ่งเป็นหญิง 1 ราย และชาย 2 ราย ตำรวจ ระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจาก “เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์” โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่น



          สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าผู้เสียชีวิตรายแรกจากการบุกรุกอาคารรัฐสภาคือ นางแอชลี แบบบิตต์ ซึ่งอาศัยอยู่ในซานดิเอโก และเป็นทหารผ่านศึกของกองทัพอากาศสหรัฐฯซึ่งแม่สามีของเธอให้สัมภาษณ์กับ Fox5 ว่านางแบบบิตต์ เป็นผู้สนับสนุนนายทรัมป์



          นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย โดยมีอยู่ 2 นายที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากถูกลากเข้าไปในฝูงชนและอีกคนถูกกระสุนปืนเข้าที่ใบหน้า



          ด้านนายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยว่ามีผู้ถูกจับกุมแล้ว 52 คน โดยในกลุ่มนี้ 47 คนถูกจับกุมจากการละเมิดเคอร์ฟิว อีก 4 คนถูกจับกุมฐานพกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ 2 ลูก โดยพบลูกหนึ่งที่สำนักงานคณะกรรมาธิการพรรคเดโมแครต อีกลูกหนึ่งพบที่สำนักงานคณะกรรมาธิการพรรครีพับลิกัน




 

ข่าวทั้งหมด

X