สภาคองเกรสกลับเข้าสู่การประชุมอีกครั้ง เพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่การประชุมต้องหยุดพักไปนานกว่า 6 ชั่วโมงเนื่องจากผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและก่อเหตุบุกรุกเข้าไปจนถึงห้องประชุม มีการทำลายทรัพย์สินในอาคาร ทำให้บรรดาสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติต้องหลบหนี จากนั้นในเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจรัฐสภา ประกาศว่าอาคารรัฐสภาปลอดภัยแล้ว และสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติได้เข้าห้องประชุมเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะประธานการประชุมร่วม กล่าวว่า การที่สมาชิกทั้งหมดกลับมาร่วมการประชุมอีกครั้ง คือการแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความเข้มแข็งของประชาธิปไตยของสหรัฐฯ และสำหรับผู้ที่สร้างความเสียหายในวันนี้ เขากล่าวว่า ความรุนแรงไม่มีวันได้รับชัยชนะ
นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครต ในวุฒิสภา กล่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องแบกรับความผิดที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา ที่สร้างรอยด่างต่อประชาธิปไตยของประเทศ ทั้งประณามว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดขึ้นเพราะประธานาธิบดีที่ส่งเสริมทฤษฎีสมคบคิด ปลุกระดมให้กลุ่มอันธพาลก่อเหตุขึ้น และควรถูกดำเนินคดีอย่างรุนแรงที่สุดตามกรอบของกฎหมาย
โดยก่อนที่การประชุมเพื่อรับรองผลคะแนนจะเริ่มขึ้น มีวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน 13 คนประกาศว่าจะออกเสียงคัดค้านผลการเลือกตั้ง 6 รัฐที่เป็นชัยชนะของนายไบเดน แต่หลังจากที่เกิดเหตุขึ้นวุฒิสมาชิกกลุ่มนี้เปิดเผยว่า พวกเขาจะไม่ออกเสียงคัดค้าน
ขณะที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อสมาชิกว่า ทุกคนได้ร่วมกันแสดงให้ชาวอเมริกัน และทุกคนทั่วโลกได้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อรัฐธรรมนูญและต่อชาวอเมริกัน ทั้งกล่าวด้วยว่าแม้จะมีการกระทำที่น่าอับอายเกิดขึ้น แต่ทุกคนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่แสดงให้โลกเห็นว่าอเมริกาสร้างขึ้นจากอะไร
....