ผู้นำหลายประเทศและนักการทูตประณามเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

          ผู้นำประเทศและนักการทูตจำนวนมาก ร่วมประณามกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่บุกรุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯในวอชิงตันเพื่อขัดขวางการประชุมวุฒิสภาเพื่อตรวจสอบคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯที่จะเป็นการรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป

          ผู้นำหลายคนระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์ คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบและบอกให้ผู้ก่อเหตุหยุดก่อเหตุ เนื่องจากความรุนแรงครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์พูดย้ำกับผู้สนับสนุนของเขาอีกครั้งว่าถูกโกงการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ทำให้ผู้สนับสนุนของเขาประท้วงจำนวนมากออกมารวมกลุ่มก่อเหตุจลาจลทำลายทรัพย์สินสาธารณะและร้านค้าหลายแห่ง รวมถึงการบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาจนถึงห้องประชุม

          นายกรัฐมนตรีเออร์นา โซลเบิร์ก แห่งนอร์เวย์ ทวีตข้อความระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวอชิงตันคือการโจมตีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้โดยสิ้นเชิง ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องรับผิดชอบในการหยุดยั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

          นายไซมอน โคฟนีย์ รัฐมนตรีการต่างประเทศไอร์แลนด์ กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจและน่าเสียใจ เมื่อมีการโจมตีโดยเจตนาต่อประชาธิปไตยโดยมีประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งส่งเสริมให้ผู้สนับสนุนของเขาพยายามที่จะคว่ำผลการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ประชาคมโลกกำลังเฝ้าดู และหวังว่า ความสงบจะกลับคืนมาโดยเร็ว

          ส่วนนายกรัฐมนตรีมาร์ค รัทเต ของเนเธอร์แลนด์ กล่าวกับประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรงว่า ขอให้ยอมรับว่านายไบเดนคือประธานาธิบดีคนต่อไป

          นอกจากนี้ยังมีนักการทูตและผู้นำระดับสูงในไอซ์แลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย โคลอมเบียและสกอตแลนด์ เตือนสหรัฐฯถึงบทบาทของตนในฐานะที่เป็นแบบอย่างของประชาธิปไตย

...