วอชิงตัน ประกาศเคอร์ฟิว ม็อบหนุน ‘ทรัมป์’ บุกอาคารรัฐสภา ขวางประชุมสภาคองเกรส
การประชุมสภาคองเกรส ของสหรัฐฯ เกิดความวุ่นวายลุกลามกลายเป็นความรุนแรง เนื่องจาก เมื่อเวลา 02.00น. ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่มาร่วมตัวกันเพื่อประท้วงผลการเลือกตั้ง บุกฝ่าแนวกั้นตำรวจเข้าไปในภายในอาคารรัฐสภา รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปจนถึงด้านในของอาคารรัฐสภา ซึ่งรวมถึงห้องประชุมวุฒิสภา โดยผู้ประท้วงรายหนึ่งขึ้นไปยืนบนเก้าอี้นั่งสำหรับประธานวุฒิสภา และตะโกนว่า "ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้!" ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้แก๊สน้ำตายิงสกัด มีรายงานว่ามีผู้หญิง 1 คน ถูกยิงที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ เร่งอพยพสมาชิกรัฐสภาออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน และพบว่ามีวัตถุระเบิดอย่างน้อย 1 ลูกอยู่บนพื้นของอาคารรัฐสภา
บรรยากาศด้านนอกอาคารรัฐสภา กลุ่มผู้สนับสนุนตะโกนด่าว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ นายไบเดน แถลงสั่งการให้นายทรัมป์ ประกาศให้กลุ่มผู้สนับสนุนยุติการชุมนุมประท้วง
ด้านนายทรัมป์ ออกคลิปวิดีโอ เรียกร้องให้ผู้ประท้วงเดินทางกลับบ้าน พร้อมทั้งเน้นย้ำเรื่องโกงการเลือกตั้ง และยังไม่ยอมประกาศความพ่ายแพ้
ทหารจากหน่วยกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) กว่า 1,000 นาย ได้เคลื่อนกำลังไปที่กรุงวอชิงตันแล้ว เพื่อสมทบกับกองกำลังของกรุงวอชิงตันในการรับมือกับเหตุการณ์จลาจลในครั้งนี้ นางมูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ได้ประกาศเคอร์ฟิวในกรุงวอชิงตัน เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันพุธ 6 ม.ค. 2564 ตามเวลาท้องถิ่น จนถึงวันนี้
สถานการณ์ล่าสุด ทำให้สภาคองเกรส ต้องระงับการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของนายไบเดน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยให้บุคคลสำคัญของสภาคองเกรส โดยได้พาตัวนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประธานในการประกาศผลการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งออกไปจากห้องประชุมวุฒิสภา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ปิดอาคารรัฐสภาและขอให้สมาชิกสภาคองเกรสทุกคนรีบเข้าไปอยู่ในเซฟเฮาส์ของอาคาร
ดาวโจนส์ ทะยาน 430 จุด คาดเดโมแครต กุมเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงปิดตลาดวันพุธ 6 ม.ค.2564 โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนเข้าถือหุ้นภาคการเงินและอุตสาหกรรม คาดหมายว่า พรรคเดโมแครต ของนายไบเดน จะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งวุฒิสภารัฐจอร์เจีย ซึ่งจะทำให้กุมเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา ล่าสุด บาทหลวง ลาฟาเอล วอร์นอร์ค จากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้ง เป็นบาทหลวงผิวดำ และเป็นคนแรกที่ปักธงในรัฐนี้ ชนะ เคลลี่ รอฟเฟอร์ จากพรรครีพับลิกัน
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 437.80 จุด หรือร้อยละ 1.44 ปิดที่ 30,829.40 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือร้อยละ 0.57 ปิดที่ 3,748.14 จุด
-แนสแดค ลดลง 78.17 จุด หรือร้อยละ 0.61 ปิดที่ 12,740.79 จุด
ด้านราคาทองคำ ร่วงลงหนักกว่า 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพิ่มขึ้น
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ.2564 ลดลง 45.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,908.60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
นอร์เวย์ สั่งสอบด่วน ผู้สูงอายุ 2 รายเสียชีวิต หลังรับวัคซีนจากไฟเซอร์
รัฐบาลนอร์เวย์ และหน่วยงานกำกับยาร่วมกับสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ เร่งสอบสวนเหตุผู้สูงอายุ 2 ราย ในบ้านพักผู้สูงอายุ เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค
นายสไตเนอร์ มาดเซน ผู้อำนวยการองค์การกำกับยานอร์เวย์ แถลงว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประเมินว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต หรือว่าเป็นแค่เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากรับวัคซีนไปแล้ว
วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และวัคซีนโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพในการป้องกันและมีประสิทธิภาพการป้องกันอยู่ที่ราวร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับวัคซีนตัวอื่นๆที่มีอยู่ในเวลานี้จากทั้งแอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด วัคซีนจีนหลายตัว และวัคซีนสปุตนิค วี ของรัสเซีย
นายกรัฐมนตรีเออร์นา โซลเบิร์ก ของนอร์เวย์ สั่งการให้ใช้มาตรการจำกัดโควิด-19 รอบใหม่ เพื่อป้องกันการระบาด เช่น
-การวางแผนประกาศบังคับใช้เคอร์ฟิว หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ 5 ม.ค. 2564 มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงสุดที่ 930 คน เนื่องจาก มองว่า การบังคับใช้เคอร์ฟิว เป็นวิธีเดียวที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
-ขอประชาชนงดเว้นการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ
-เมื่อวันที่ 31ธ.ค. 2563 นอร์เวย์ ออกคำสั่งให้ตรวจวัคซีนโควิด-19 ทุกคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
วิกฤตหนัก! ลอสแองเจลิส งดช่วยชีวิตผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น
รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ กลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง เฉพาะช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตเกือบ 4,000 ราย และในช่วง 7 วันล่าสุด มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่ารัฐอื่นๆกว่า 2 เท่าตัว เป็น 800,000 คน ซึ่งตัวเลขนี้มีผลอย่างมากต่อระบบสุขอนามัย และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด
ล่าสุด ที่ลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคลิฟอร์เนีย มีรายงานว่าโรงพยาบาลบางแห่งที่มีผู้ป่วยล้นอยู่แล้ว กำลังใช้นโยบายไม่อนุญาตให้รถพยาบาลเข้าไปส่งผู้ป่วยเพิ่ม ขณะที่ แมเรียนน์ เกาเชอ-ฮิลล์ ผู้อำนวยการทางการแพทย์ของสำนักงานบริการการแพทย์ฉุกเฉินเทศมณฑลลอสแองเจลิส ออกคำชี้แนะให้เจ้าหน้าที่รถพยาบาล งดรับผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่หัวใจหยุดเต้นและไม่สามารถกู้ชีพได้ รวมทั้งให้จำกัดการใช้ออกซิเจน ขณะเดียวกัน มีการเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ได้รับการฝึกให้เป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และให้วิศวกรของกองทัพช่วยเสริมระบบจ่ายออกซิเจนในโรงพยาบาล 6 แห่ง
ตัดไฟแต่ต้นลม! จีน สั่งปิดเมืองหลวงมณฑลเหอเป่ย พบเคสใหม่ 20 คน
จีน สั่งจำกัดการเดินทางและห้ามคนชุมนุมรวมกลุ่มในเมืองสือเจียจวง เมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย หลังจากมณฑลนี้ที่เข้าสู่ ‘ภาวะสงคราม’ ตั้งแต่วันอังคารที่ 5 ม.ค.2564 พบผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่น 20 คน จากทั้งหมด 25 คนที่พบทั่วประเทศ
เมืองสือเจียจวง อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง ไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 117 คน และเมื่อวานนี้ 6 ม.ค. 2564 มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 63 คน และ 78 คน เป็นพวกที่ไม่แสดงอาการ ทำให้เจ้าหน้าที่สั่งเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อทั่วพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ เมืองนี้มีประชากร 11 ล้านคน ยังปิดท่ารถบัสที่วิ่งระยะทางไกล ปิดทางหลวงสายหลักที่มุ่งหน้าเข้าสู่เมือง ปิดโรงเรียน และห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในอาคารที่พักอาศัย ระงับบริการจัดส่งพัสดุ 3 วัน
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ทางการเลือกใช้มาตรการเข้มงวดเชิงรุกเพื่อตัดไฟต้นลมไม่ให้เกิดการระบาดรอบใหม่
คาดวันนี้ กรุงโตเกียว ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 1,591 คน ทำสถิติสูงสุด ขณะที่ สื่อญี่ปุ่น คาดว่าในวันนี้ รัฐบาลจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกครั้งในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ มีผลในวันศุกร์ที่ 8 ม.ค. 2564 มีผลเป็นเวลา 1 เดือน ขณะที่ญี่ปุ่น เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวในช่วงฤดูร้อน ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 248,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 3,600 ราย
กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ ต้องประกาศเตือนภัยโรคโควิด-19 ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจนทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อและมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดและยาวนานยิ่งขึ้น
ด้านหัวหน้าสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น กล่าวหลังการประชุมว่า หากทางการตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดในทันที ก็ไม่สามารถทำให้สถานการณ์การระบาดในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบลดลงไปอยู่ในระดับ 3 ได้ภายในสิ้นเดือนนี้