ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564

05 มกราคม 2564, 20:09น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564



หุ้นไทยแตะระดับ 1,500 จุด เชื่อมั่นไม่มีล็อกดาวน์



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 38.41 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 115,299.85 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีเกินคาด จากความเชื่อมั่นในประเทศที่มีมากขึ้นหลังไม่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้บ้าง ทำให้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจึงมีน้อยกว่าคราวก่อน และสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศก็ถือว่ายังสามารถคุมได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น นักลงทุนจึงกล้าที่จะเข้ามาซื้อ แต่ก็ต้องระวังแรงขายด้วยเพราะดัชนีฯขึ้นมาเหนือแนว 1,500 จุดยังไม่แข็งแกร่ง เพราะเป็นการขึ้นมาจากแรงดันของหุ้นบางตัวอย่าง DELTA และหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งทำให้ตลาดยังเปราะบางอยู่



          นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ที่ Fund Flow จะไหลเข้ามาตลาดฯในวันนี้ เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ขึ้นมาในระดับกว่าแสนล้านบาท ทั้งนี้ตลาดบ้านเราวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย



          ปัจจัยต่างประเทศ รอติดตามผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ของสหรัฐฯซึ่งจะเริ่มนับคะแนนในเวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับพรุ่งนี้เช้าเวลา 07.00 น.ตามเวลาไทยหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งจะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้ผลักดันมาตรการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลของนายโจ ไบเดน เป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่หากมีการปรับขึ้นภาษีฯจริงนักลงทุนก็คงจะมองว่าตลาดสหรัฐฯแพงแล้ว และอาจมีแรงขายออกมาได้ และย้ายฐานการลงทุนในตลาดหุ้นอื่นๆ แทน รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย



          รวมทั้งยังคงติดตามผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ซึ่งมีประเด็นในเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตก็ต้องรอดูว่าจะเพิ่มหรือไม่ หากเพิ่มกำลังการผลิตก็มีผลต่อราคาน้ำมันด้วย และให้ติดตามธนาคารโลกที่จะพูดถึงเศรษฐกิจโลกปีนี้อย่างไรบ้าง



          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบที่ระดับ 27,158.63 จุด ลดลง 99.75 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มบริษัทขนส่งและกลุ่มค้าปลีก หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินนานนับเดือนในกรุงโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียงในสัปดาห์นี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวขึ้น ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 27,649.86 จุด เพิ่มขึ้น 177.05 จุด



เปิดเหตุผลทำไมตลาดหุ้น ไม่กลัวโควิด?



         นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ทำไมตลาดหุ้นถึงไม่กลัวโควิด? คาดว่าน่าจะมาจาก 5 ปัจจัย ดังนี้



1.การที่เริ่มมีการผลิตและฉีดวัคซีนไปแล้วในเกือบ 40 ประเทศ และวัคซีนน่าจะมีพร้อมใช้ในอีกหลายประเทศภายในปีนี้ ทำให้ตลาดหุ้นมั่นใจว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกน่าจะใกล้แตะจุดสูงสุดแล้ว



2.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ที่เพิ่งผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่สอง มูลค่าเก้าแสนล้านดอลลาร์ หรือญี่ปุ่น ที่ออกมาตรการกระตุ้นชุดใหม่ มูลค่าเจ็ดแสนล้านดอลลาร์ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี



3.ตลาดหุ้นเชื่อว่าธนาคารกลางในหลายประเทศยังเหลือช่องว่างทางนโยบาย (policy space) ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินได้อีก ถ้าสถานการณ์โควิดเลวร้ายถึงขั้นต้องออกมาตรการเพิ่มเติม



4.การฟื้นตัวแบบ V-shaped ที่มีให้เห็นแล้วในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยจากโควิด เช่น จีน เวียดนาม และไต้หวัน ที่ GDP กลับมาขยายตัวแล้วในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ทำให้ตลาดหุ้นเชื่อมั่นว่าประเทศที่เหลือมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เมื่อสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิดได้



5.อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ บวกกับระดับสภาพคล่องส่วนเกินที่สูงมากๆในทุกประเทศ นอกจากช่วยเพิ่มมูลค่าทางทฤษฎีให้กับราคาหุ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงกดดันทางอ้อมให้นักลงทุนต้องเพิ่มการลงทุนในหุ้นอีกด้วยเพื่อหาผลตอบแทน

          สรุปคือ ตลาดหุ้นเลือกที่จะมองไปข้างหน้า มากกว่ามองไปข้างหลัง และเชื่อมั่นว่ามาตรการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ทั่วโลก ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ ด้านนโยบายการเงิน และด้านนโยบายการคลัง จะช่วยทำให้โลกสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้



คณบดีศิริราชพยาบาล ย้ำ อย่าชะล่าใจ พบหมอช้า โอกาสเสียชีวิตเพราะโควิด-19สูง



          ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ว่า มีข้อสังเกตจากคนไข้อาการหนัก 17 คน ที่รักษาตัวที่ รพ.ศิริราช เนื่องจากเกิดขึ้นในคนอายุน้อย รวมถึงพบอัตราการเสียชีวิตในคนอายุน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 20-40 กว่าปี ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อติดเชื้อ COVID-19 จะไม่ค่อยมีอาการและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่ปัจจัยจากไวรัสโดยตรง แต่สาเหตุเพราะมาพบแพทย์ช้า บางรายไม่มาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ เมื่อมาในช่วงอาการหนักจึงให้ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ทัน ซึ่งยาดังกล่าวต้องได้รับตั้งแต่ต้น ๆ ย้ำว่าอย่ารอจนอาการหนัก คนที่มีความเสี่ยงหรือเริ่มมีอาการขอให้รีบมาพบแพทย์



ตม.ตามจับแรงงานต่างด้าว หลังตลาดใหม่ดอนเมือง พบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 คน จ่ายค่านายหน้าลักลอบเข้าเมือง คนละ 6,000 บาท



          เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้าจับกุม แรงงานชาวเมียนมา เป็นชายและหญิงรวม 18 คน ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งหลังตลาดใหม่ดอนเมือง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กองควบคุมโรคเข้าตรวจหาเชื้อพบว่า มีผู้ที่สุ่มเสี่ยงมีผลเป็นลบ 7 คน



          จากการสอบสวนพบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา ก่อนข้ามชายแดนด้านแม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 25-26 ธ.ค. 63 และวันที่ 1-2 ม.ค.64ใช้ช่องทางธรรมชาติที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ และมีนายหน้ามารับนำขึ้นรถกระบะ และพลางตัว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งหลุดรอดมาถึงที่บ้านพัก หลังตลาดใหม่ดอนเมือง เพื่อรอจะส่งต่อ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา



          หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าชุดที่เข้าจับกุม ได้รายงานให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช. สตม. พล.ต.อ ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร ที่ควบคุมดูแลความมั่นคงทราบแล้ว ก่อนจะมีคำสั่งให้ตรวจเช็กรถยนต์ที่นำแรงงานข้ามชาติเข้ามา รวมทั้งกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง อย่างละเอียด



          เจ้าหน้าที่สงสัยว่า ระหว่างวันที่หลบหนีเข้ามา มีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงและมีการคุ้มเข้มอย่างสูงสุด ที่ห้ามไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามา และมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยรวมกันตั้งด่านเหตุใดจึงหลบหนีเข้ามาถึงในตัวเมืองหลวงชั้นในได้



          ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง มีการจับกุมแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง 18 คน มาทำงานบริเวณตลาดย่านดอนเมือง ตรวจคัดกรองพบติดเชื้อโควิดถึง 7 คน สอบสวนพบมีการนายหน้าและขบวนการนำพาเข้าไทย โดยเสียค่านายหน้าคนละ 6,000 บาท



สมุทรสาครตั้ง 12 ด่าน ทางบก-ทางน้ำ ล็อกคนเข้า-ออก สกัดโควิด-19



          หลังจากที่จังหวัดสมุทรสาครถูกยกระดับเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก และจากการตรวจหาเชื้อในโรงงาน พบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานต่างด้าวนั้น ยังคงอยู่ในพื้นที่และอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน จึงทำให้ง่ายต่อการนำตัวผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ Quarantine หรือการกักกันตัว ส่วนคนไทยจะถูกส่งตัวเข้าไปที่โรงพยาบาล

          โดยมาตรการคัดกรองคนเดินทางเข้า-ออกจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครได้มีมีการตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางเข้า-ออกจังหวัดทางถนน จำนวน 9 จุด และตำรวจน้ำ ตั้งจุดตรวจท่าเรือ จำนวน 3 จุดโดยมีภารกิจ คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกจังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอข้างเคียง หากพบว่าใครมีอุณหภูมิร่างกายที่ผิดปกติ จากการตรวจวัดซ้ำ 2 ครั้ง และยังมีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ก็จะทำประวัติลงบันทึกข้อมูลส่วนตัวไว้ก่อน



          จากนั้นจึงจะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หรือให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมุทรสาครมารับตัวไปทำการตรวจค้นหาเชื้อโควิด 19 ทันที ทั้งนี้เพื่อเป็นการดำเนินงานตามมาตรการเข้มด้านการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครต่อไป



ตร.ค้นที่ตั้งบ่อนย่านปิ่นเกล้า ไม่เจออะไรเลย



          ตำรวจจากกองบังคับการการสืบสวนสอบสวนนครบาล พร้อมด้วยกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7 และกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีกองบัญชาการตำรวจนครบาล กว่า 30 นาย นำหมายศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นอาคารคอนโดมิเนียมปิ่นเกล้าเลขที่ 117 สูง 9 ชั้น ในซอยโรงพยาบาลเจ้าพระยา ย่านปิ่นเกล้า ที่คาดว่าเป็นสถานที่ตั้งบ่อนลอยฟ้า เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวบริเวณชั้น 8 พบว่า มีป้ายห้องจัดเลี้ยงสัมมนาติดอยู่หน้าทางเข้า ภายในมีห้องโล่งมีเพียงเก้าอี้และโต๊ะวางอยู่แต่ไม่พบมีอุปกรณ์เล่นการพนัน



นายพุฒิพงศ์ ผู้ดูแลอาคาร เปิดเผยว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยเป็นบ่อนการพนันแต่เลิกไปนานแล้ว ปัจจุบันภายในห้องบริเวณดังกล่าวใช้เป็นห้องจัดการประชุมสำหรับลูกบ้านและจัดงานเลี้ยง ไม่ได้เป็นบ่อนตามที่มีกระแสโซเชียลโพสต์แต่อย่างใด และวันนี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย



          ด้าน พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล หัวหน้าชุดที่นำกำลังเข้าตรวจค้น เปิดเผยว่า จากกระแสสื่อโซเชียลระบุว่ายังมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. จึงสั่งการให้นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นคอนโดที่พัก และบริเวณชั้น 8 ที่เข้าตรวจค้นไม่พบเป็นบ่อนการพนันและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด



ผบ.ตร.ยอมรับ หลักฐานไม่พอดำเนินคดีบ่อน



          พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าได้ส่งชุดสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนัน โดยมีการรายงานเข้ามาหลายพื้นที่ และได้ส่งตำรวจเข้าไปประกบ เฝ้าระวัง แต่ยอมรับว่ายังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ เพราะที่ผ่านมา การลักลอบเล่นการพนัน หรือบ่อนการพนัน มักมีการกล่าวอ้างบุคคล ตัวละครเจ้าของบ่อน และมีการอ้างชื่อบุคคลสำคัญ นักการเมือง ให้การสนับสนุน กรณีนี้ตำรวจทราบดี เท่าที่สื่อมวลชนทราบ แต่บางครั้งการทำงานของตำรวจ เมื่อไม่มีพยานหลักฐาน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ขอฝากไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังบ่อนพนันให้ระวังตัว หากหลักฐานชี้ชัดจะเอาผิดทันที พร้อมย้ำว่าได้ให้นโยบายแก่จเรตำรวจไปแล้วว่า ต้องเด็ดขาด และยืนหยัดว่ามีความตั้งใจ และต้องทำให้ได้ และจะไม่ให้ประชาชนผิดหวัง



 



'ผบช.ภ.2'สั่งย้าย'ผู้การตราด'สังเวยบ่อนแพร่เชื้อ



          พล.ต.ท.วีระ จีรวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 (ผบช.ภ.2 )ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค2ที่6/2564ลงวันที่5ม.ค.2563เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการโดยให้พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด มาปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค2 (ศปก.บช.ภ.2)โดยขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง กรณีมีการตรวจพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (โควิด-19)โดยผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมีประวัติเชื่อมโยงกับบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดตราด



          ก่อนหน้านี้ มีคำสั่งให้ พล.ต.ต. สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติตำรวจภูธรภาค 2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม และให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.ภ.2 รักษาราชการแทน เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเล่นการพนันหรือไม่



ผู้ติดเชื้อโควิด'กลุ่มสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้า' กทม.สะสม 82 ราย



          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป และปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยโควิดที่พบในสถานบันเทิง ร้านอาหารย่านปิ่นเกล้า ว่า เหตุการณ์นี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 82 คน อยู่ใน กทม.เป็น หลัก โดยพบว่า ที่ จ.กาญจนบุรี พบผู้ป่วย 2 คน เป็นชายอายุ 24 ปี และหญิงอายุ 30 ปี ทำงานในสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้าและมีประวัติเดินทางเล่นการพนัน ระหว่างวันที่ 10 ถึง 28 ธันวาคม ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านในวันที่ 30  ธันวาคมโดยระหว่างทางได้แวะทานหมูกระทะ โดยเริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่นก่อนจะตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม



ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 50 คน บางละมุง ยอดสะสม 201 คน



          รายงานข่าวจากจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 คน รวมยอดสะสม 390 คน สำหรับสถานที่เสี่ยงกำลังดำเนินการสอบสวนโรค ซึ่งพบว่า มีปัจจัยเสี่ยงจากการไปสถานบันเทิง การเล่นบ่อนการพนัน แคมป์ก่อสร้างที่ยังไม่สามารถสรุปได้



          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 คน แบ่งเป็น อำเภอศรีราชา 32 คน ,อำเภอบางละมุง 4 คน ,อำเภอเมืองชลบุรี 6 คน, อำเภอบ้านบึง 5 คน และจังหวัดระยอง 2 คน ส่วนผู้ติดเชื้อสะสม 390 คน อำเภอบางละมุง 201 คน, อำเภอเมือง 29 คน,อำเภอศรีราชา 121 คน,อำเภอสัตหีบ 10 คน ,อำเภอบ้านบึง 12 คน , อำเภอพนัสนิคม 5 คน และจังหวัดระยอง 12 คน

แชมป์ซูโม่ระดับสูงของญี่ปุ่นติดโรคโควิด-19



          สมาคมซูโม่แห่งประเทศญี่ปุ่น (JSA)ออกแถลงการณ์ว่า นายฮาคุโฮ โช อายุ 35 ปี แชมป์ซูโม่หรือมวยปล้ำระดับสูงของญี่ปุ่นติดโรคโควิด-19 หลังจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส จึงเข้าตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิด-19 โดยนายฮาคุโฮ โช จะขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรักษาสุขภาพต่อไป ส่วนนักกีฬาซูโม่คนอื่นๆในค่ายเดียวกันจะเข้ารับการตรวจโรคเช่นกัน



          นายฮาคุโฮ เป็นนักกีฬาซูโม่ที่ครองตำแหน่งโยโกสุนะ หรือตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ในญี่ปุ่น อยู่ระหว่างเตรียมตัวเข้าแข่งมวยปล้ำในศึกนิวเยียร์ แกรนด์ ทัวร์นาเมนท์ ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงโตเกียวในวันเสาร์นี้ แต่ติดโรคโควิด-19 เสียก่อน ที่ผ่านมากีฬาเช่นการแข่งขันมวยปล้ำของญี่ปุ่นยังคงจัดการแข่งขันตามปกติ โดยในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว นายคิโยทากะ ซูทาเกะ นักกีฬาซูโม่วัย 28 ปี เสียชีวิตจากระบบทำงานของอวัยวะภายในหลายอย่างล้มเหลวหลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเดือนเมษายน นับเป็นนักกีฬาซูโม่คนแรกของญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19



          ข่าวการติดโรคโควิด-19 ของนายฮาคุโฮ มีขึ้นขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับกรุงโตเกียวและเขตปริมณฑล หลังพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่าญี่ปุ่นจะเดินหน้าจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและกีฬาพาราลิมปิกกรุงโตเกียว 2020 ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคมถึง 8 สิงหาคมนี้หรือไม่



          ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม  243,847 คน เสียชีวิต 3,599 ราย



คนละครึ่งเฟส 2 ยังไม่ใช้สิทธิ์ 1.6 ล้านคน รอสรุป 15 ม.ค. ขยายเวลา เราเที่ยวด้วยกัน



          นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 2 แล้ว จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ ยังไม่ใช้สิทธิ์อีก 1.6 ล้านสิทธิ์ ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะมีการประเมินการใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งภายใน 14 วัน ตามที่กำหนดการใช้สิทธิ์ หรือภายใน 15 ม.ค.64 ก่อนที่จะมีการประเมินจำนวนผู้ที่ยังไม่ใช้สิทธิ์ว่า เหลือจำนวนเท่าไหร่ และนำสิทธิ์จำนวนที่เหลือเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ ในรอบเก็บตกเหมือนกับโครงการคนละครึ่งเฟสแรกต่อไป



           ขณะที่ยอดการใช้จ่ายคนละครึ่งต่อวันหลังเปิดใช้เฟส 2 จำนวนเงิน 3,500 บาท รวมกับรอบแรกที่เติมเงินให้อีก 500 บาทอยู่ที่ประมาณวันละ 1 พันล้านบาท

          ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันจำเป็นจะต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปหรือไม่ เพราะขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่จนประชาชนไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้นั้น ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาของโครงการออกไปอีก คาดว่าจะดำเนินการโดยเร็ว ซึ่ง ททท.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองฯของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(ศสช.) เพราะเงินที่ใช้ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นการใช้งบฟื้นฟู หลังจากนั้นถึงจะเสนอ ครม.ต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X