น้ำมันโลก ปิดลดลงได้รับแรงกดดันจากน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น/ดาวโจนส์ ร่วงนักลงทุนกังวลรายได้แรงงานลดลง

ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในตลาดโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับตัวลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่ 50.11 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งช่วงหนึ่งขยับลงไปถึง 48.90 ดอลลาร์   ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดัน หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 11,000 บาร์เรลต่อวัน แตะที่ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2526  นายอัล โอไตบา เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประจำสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ยูเออีไม่มีแผนที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมัน และยูเออี สามารถรับสภาพตลาดเช่นในปัจจุบันได้อีกนานมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์  ขณะเดียวกันอิรัก วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันในเดือนม.ค. เป็น 3.3 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ส่งออกน้ำมันได้ถึง 2.94 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. 

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาด 9 ม.ค. ดัชนีร่วงลง 170.50 จุด ปิดที่ 17,737.37 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 17.33 จุด  ปิดที่ 2,044.81 จุด และดัชนีแนสแดคปรับลง 32.12 จุด  ปิดที่ 4,704.07 จุด แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 252,000 รายในเดือนธ.ค. 2557 จากระดับ 353,000 รายในเดือนพ.ย.ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจ้างงานจะเพิ่มขึ้น240,000ราย ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.2 สู่ระดับร้อยละ 5.6 เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง แต่นักลงทุนกังวลตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่ลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือนธ.ค. อยู่ที่ระดับ 24.57 ดอลลาร์เป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 ด้านราคาทองคำปิดในแดนบวกโดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,216.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์