เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กว่า 2 ใน 3 จากจำนวน 15 ล้านโดสที่กระจายไปให้โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศยังคงอยู่ในคลังเก็บวัคซีนโดยไม่มีการนำไปใช้ ขณะที่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กและผู้ว่าการรัฐฟลอริดาประกาศจะลงโทษผู้บริหารโรงพยาบาลต่างๆที่ทำงานบกพร่อง ไม่เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนโดยเร็ว
โดยเฉพาะรัฐนิวยอร์ก นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐ มีคำสั่งให้บริหารของโรงพยาบาลต่างๆให้เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากได้รับวัคซีน มิเช่นนั้นอาจจะถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับหรือลดปริมาณวัคซีนที่โรงพยาบาลนั้นๆจะได้รับจากการจัดสรรจากภาครัฐในอนาคต เขาไม่ต้องการให้แช่วัคซีนไว้ในตู้เย็นหรือช่องเย็นสำหรับเก็บวัคซีน แต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำวัคซีนไปฉีดให้ประชาชน
นายคัวโม พูดเรื่องนี้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประกาศในเวลาต่อมาว่า คนไข้อายุ 60 ปีเศษ อาศัยอยู่ในเมืองออลบานี เป็นคนแรกของรัฐนิวยอร์กที่ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษหรือ สายพันธุ์ B.1.1.7 ทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐนิวยอร์ก ต้องเร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงต่างๆให้มากขึ้น
ส่วนรัฐฟลอริดา นายรอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐ เปิดเผยว่า รัฐฟลอริดาจัดลำดับความสำคัญในการกระจายวัคซีนโดยฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ ตามด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และแรงงานต่างๆ พร้อมกำหนดเป็นนโยบายว่า ในอนาคต รัฐฟลอริดา จะจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมสำหรับโรงพยาบาลที่ดำเนินการฉีดวัคซีนหมดอย่างรวดเร็ว ส่วนโรงพยาบาลที่ไม่เร่งดำเนินการฉีดวัคซีน วัคซีนเหลืออยู่มากจะส่งมอบให้โรงพยาบาลอื่นๆที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนมากกว่า
ในปัจจุบัน สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 21,353,051 คน เสียชีวิต 362,123 ราย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือ รัฐแคลิฟอร์เนีย,รัฐเท็กซัส,รัฐฟลอริดาและรัฐนิวยอร์ก
Cr: Reuters, The Star