ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30 น.วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564

จ.น่าน พบผู้ป่วยคนแรก มีประวัติคุยกับคนที่ติดเชื้อ  

          นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า หลังจากผลตรวจทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย ยืนยันว่า หญิงอายุ 23 ปี สัญชาติลาว มีอาชีพรับจ้าง มีผลตรวจเป็นบวก และเป็นผู้ติดเชื้อคนแรกของ จ.น่าน จากการตรวจสอบ ไทม์ไลน์

-26 ธ.ค.2563 ได้คุยกับพนักงานส่งอาหาร ทราบภายหลังว่าป่วยติดเชื้อโควิด-19

-29 ธ.ค.2563 ได้นั่งรถแท็กซี่ไปห้างสรรพสินค้าย่านบางแค แล้วนั่งแท็กซี่กลับ

-30 ธ.ค.2563 ได้เดินทางกลับ จ.น่าน มาบ้านพี่สาว ที่ อ.นาหมื่น จ.น่าน โดยรถกระบะมีคนร่วมเดินทาง 5 คนรวมผู้ป่วย

-31 ธ.ค.2563 อยู่บ้านกับบุตรสาว

-1 ม.ค.2564 คุยกับเพื่อนบ้าน และได้รับข่าวพนักงานส่งอาหารที่พูดคุยด้วยติดเชื้อโควิด-19

- 2 ม.ค. 2564 ช่วงกลางวัน ได้ไปห้างสรรพสินค้าในจังหวัดน่าน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่ม 2 คน ซึ่งในช่วงเวลา 14.18 น. ได้แวะตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนาหมื่น เนื่องจาก มีอาการไข้ เจ็บคอ มีเสมหะ

-มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 12 คน ติดตามได้ทั้งหมดแล้ว ผลตรวจ 4 คน ไม่พบเชื้อ และอีก 5 คน เป็นบุคคลในบ้าน รอผลการตรวจคาดว่าจะออกมาในวันนี้  

-มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 5 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการผู้ป่วย ขณะนี้หญิงชาวลาว รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลน่าน  

ผู้ว่าฯ น่าน ให้คนที่มาจากพื้นที่สีแดง กักตัว 14 วัน

         ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์และกล้องวงจรปิดของผู้ป่วยติดเชื้อ ที่เดินทางไปห้างสรรพสินค้า มีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาภายในห้าง เชื่อมั่นว่า จะไม่เป็นการระบาดในวงกว้าง เพราะสืบหาผู้สัมผัสได้ทั้งหมด และขณะนี้จังหวัดออกมาตรการเข้มข้นมีผลวันนี้ 5 ม.ค.2564

-ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด ต้องกักตัว 14 วัน

-นักท่องเที่ยว ต้องลงทะเบียนอย่างละเอียดกับสถานที่พักแรม และแจ้งเส้นทางไทม์ไลน์ในการท่องเที่ยวภายในจังหวัดน่านให้ทราบเพื่อประเมินสถานการณ์ความเสี่ยง โดยขอความร่วมมือห้ามปิดบังข้อมูลเด็ดขาด

ผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวกรณีมาตรการกักตัว 14 วัน อาจทำให้มีการยกเลิกการเดินทาง ทางจังหวัดน่าน จะมีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการ สถานประกอบที่พัก โรงแรม และสายการบิน ให้เข้าใจและเห็นใจนักท่องเที่ยว เพื่อพิจารณาเลื่อนกำหนด หรือคืนเงินมัดจำหรือค่าเดินทาง เพื่อเป็นการช่วยเหลือกันและเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด

-ปิดสถานบริการและสถานบันเทิง 15 วัน

-ขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามเขตจังหวัดหากไม่จำเป็น

-หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก

-สถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร และประชาชนต้องปฏิบัติตามหลัก New Normal อย่างเคร่งครัด

-ขณะที่ โรงพยาบาลน่าน ออกมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการห้ามเยี่ยมผู้ป่วยทุกกรณี ให้เฝ้าไข้ เฉพาะผู้มีบัตรอนุญาต เตียงละ 1 คน เท่านั้น และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

          นายจรัญ ยะม่อนแก้ว นายอำเภอนาหมื่น เปิดเผยว่า มีการคัดกรอง ขยายผลผู้ใกล้ชิดอีก 12 คนว่ามีใครบ้าง มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โดยมีเป้าหมายคัดกรองกว่า 100 คน และมี 29 คนที่ต้องทำ swab ขณะนี้ผู้มีความเสี่ยงได้กักตัวเองทั้งหมด ทั้งที่ต้องกักตัวเองในสถานที่กักตัวของหมู่บ้าน คือที่ศาลาหมู่บ้านและกักตัวเองที่บ้าน โดยให้แยกห่างจากครอบครัวและคนใกล้ชิด มีคณะกรรมการหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เข้าตรวจสอบและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน

         ขณะที่มี 2 โรงเรียน และ อีกหนึ่งศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่อำเภอนาหมื่น ที่มีความเสี่ยง ได้มีการปิดการเรียนการสอนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย อย่างไรก็ตามให้เป็นอำนาจการพิจารณาจากผู้บริหารของโรงเรียน

         ด้านห้างสรรพสินค้าทั้งสองแห่ง หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และมีประวัติเดินทางไปห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2564 ทีมปฏิบัติการ ได้ดำเนินการสอบสวนพนักงานพร้อมกับดูกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบไทม์ไลน์ ได้สอบถามพนักงานประจำบูธแผนกต่างๆที่มีการทำความสะอาดแล้ว และให้ทำตามมาตรการทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด ได้ให้คำแนะนำและการปฏิบัติตน ดูแลตัวเองเบื้องต้นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ทางบริษัทใหญ่ จะส่งทีม safety มาดำเนินการ big cleaning ทำความสะอาดภายในห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง

CR:ศูนย์ปฎิบัติการภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุข จ.น่าน, ประชาสัมพันธ์ จ.น่าน 

จ.พิจิตร พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 3 คน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร รายงานสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพิจิตร วันที่ 4 ม.ค. 2564

-ผู้ป่วยยืนยัน 3 คน

-ผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 8 คน

-รักษาหายแล้ว 1 คน

กรณีที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสมุทรสาคร รวมผู้ป่วยสะสม 7 คน

-ตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสทั้งหมด 1,100 คน ไม่พบเชื้อ 1,028 คน รอผล 65 คน

          สำนักงานสาธารณสุข จ. พิจิตร รายงานว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นชายอายุ 81 ปี หญิงอายุ 83 ปี และชายอายุ 54 ปี ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูก เป็นชาวบึงนาราง เข้ารักษาที่ รพ. ตะพานหิน

CR:ศูนย์ปฎิบัติการภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุข จ.พิจิตร

หลายจังหวัดพบผู้ติดเชื้อที่สนามไก่ชน

          นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุข จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 4 คน เป็นกลุ่มที่อยู่สนามไก่ชนป่าโมกอินเตอร์ จ.อ่างทอง

-เป็นชายไทย อายุ 54 ปี อายุ 34 ปี อายุ 51 ปี และ อายุ 24 ปี ทั้งหมดเดินทางไปสนามไก่ชนป่าโมกอินเตอร์ จ.อ่างทอง ได้เข้ารับการรักษาที่ห้องผู้ป่วยแยกโรค รพ.สมเด็จพระสังฆราช อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

          จ.สุพรรณบุรี แจ้งผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 คน หรือรายที่ 11 ของจังหวัด เป็นเจ้าของร้านอาหาร อ.บางปลาม้า เพศชาย อายุ 66 ปี เดินทางไปสนามไก่ชนป่าโมก เช่นกัน

          ขณะที่ จ. สิงห์บุรี พบพบผู้ติดเชื้อ 3 คน เป็นชาย อายุ 48 ปี  ชายอายุ 34 ปี และชายอายุ 65 ปี มีประวัติเดินทางไปที่สนามไก่ชน ใน จ.อ่างทอง

          ส่วนที่ จ. ลพบุรี พบผู้ป่วย โควิด-19 รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 47 ปี เดินไปสนามไก่ชนถึง 4 จังหวัด ได้แก่ สนามไก่ชนหนองตาโล่ ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี,สนามไก่ชนบ้านแป้ง จ.พระนครศรีอยุธยา, ซุ้มไก่ชนลูกชิ้นเสี่ยโอ หลังวัดสิงห์ทอง ต.บางขันหมาก อ.เมืองลพบุรี และสนามไก่ชนลำท่าแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง

นายกฯ ยืนยันไม่ "ล็อกดาวน์" แต่ให้เข้มงวดมาตรการในทุกจังหวัด

          กรณี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ที่ประชุม ศบค. ได้ตัดสินใจตามข้อเสนอแนะที่จะล็อกดาวน์ 5 จังหวัดที่มีตัวเลขการแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ สมุทรสาคร, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด โดยงดเดินทางเข้าออก ยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการล็อกดาวน์ แต่ให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ไปเพิ่มมาตรการและความเข้มงวด และในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้จะนำผลการประชุมศบค. หารือในครม. ด้วย

แม่เลี้ยงผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวเด็ก 2 คน ย่านพระโขนง ยืนยัน ลูกเลี้ยงป่วยพิการทางสมอง ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง

          การจับกุมตัวนายชัยโย เจริญวัย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาลักพาตัวเด็ก 2 คน อายุ 7 ขวบ และ 8 ขวบ ที่ล่อลวงเด็ก ขณะไปเที่ยวในห้างสรรพสินค้าสาขาย่อย ซอยสุขุมวิท 50 เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2564 ตำรวจ สน.พระโขนง ตามไปจับกุมนายชัยโย พร้อมช่วยเหลือเด็กออกมาได้ ภายหลังมีพลเมืองดีพบเห็นเด็กทั้ง 2 คน ที่มีรูปพรรณสันฐานตรงกับที่พ่อของเด็กโพสต์ไว้ปรากฏตัวบริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 และได้ออกตามหาจนไปพบบริเวณสนามหลวง

          แม่เลี้ยงของนายชัยโย อายุ 72 ปี ที่มาเยี่ยมลูกเลี้ยง เล่าให้ฟังว่า นายชัยโย เป็นเด็กที่มีอาการพิการทางสมองตั้งแต่เด็กเป็นคนสมาธิสั้น เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจากอาการป่วย แต่เนื่องจากเป็นคนอารมณ์แปรปรวน ควบคุมตัวเองลำบากจึงไม่ยอมรับประทานยารักษาอาการให้ครบ หลังหลบหนีสถานสงเคราะห์ไปๆ มาๆ หลายครั้ง ก็มาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ย่านอ่อนนุช

          ก่อนก่อเหตุบังเอิญไปเจอเด็กทั้งสองคนในที่เกิดเหตุ ซึ่งลูกเลี้ยงบอกว่า เด็กทั้งสองคนเป็นคนขอให้พาไปเที่ยว อ้างว่าไม่มีพ่อ-แม่ ด้วยความสงสารจึงพาตระเวนไปเรื่อยๆ และวันเกิดเหตุก็อยู่ระหว่างจะพาไปที่สถานีขนส่งสายใต้ เพื่อหารถกลับมาบ้านที่ย่านอ่อนนุช ยืนยันว่าลูกเลี้ยงเป็นคนรักเด็ก ไม่เคยทำร้ายคนอื่น ส่วนที่ถูกจับกุมดำเนินคดีเรื่องจำหน่ายยา ก็เพราะถูกเพื่อนยัดยาบ้า 17 เม็ด จึงต้องรับโทษจำคุก 2 ปีกว่า ไม่แน่ใจว่าลูกเลี้ยงเคยเสพยาเสพติดหรือไม่

          ด้าน พ.ต.ท.เสถียร วิชญ์ธนมาลา รองผู้กำกับการ(รอง ผกก.) สอบสวน สน.พระโขนง กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับว่าที่ทำไปเพราะต้องการพาเด็กไปเที่ยวเท่านั้น ไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย หลังจากนี้ก็ต้องสอบสวนอย่างละเอียด ประกอบการพิจารณาหลักฐานเรื่องที่ญาติอ้างว่ามีอาการป่วยทางสมอง เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดี ส่วนผู้ปกครองและเด็กทั้ง 2 คนที่ถูกลักพาตัว เบื้องต้นทราบว่าวันนี้ไม่สะดวกมาพบพนักงานสอบสวน ก็จะมีการนัดหมายสอบปากคำอีกครั้ง