อิหร่าน เร่งเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม พร้อมทั้งยึดเรือบรรทุกสารเคมีจากเกาหลีใต้

          สำนักข่าวเมห์ และสำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานอ้างโฆษกรัฐบาลอิหร่านว่า รัฐบาลอิหร่านเริ่มเดินหน้าโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่โรงนิวเคลียร์ใต้ดินเมืองฟอร์โดว์(Fordow)ให้มีความบริสุทธิ์ร้อยละ 20 โดยในปัจจุบันอิหร่านมีคลังแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะแล้วร้อยละ 4.5 สูงกว่าร้อยละ 3.67 ตามข้อตกลงนิวเคลียร์เดิมที่อิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษและเยอรมนีลงนามไว้เมื่อปี 2558 แต่ผู้สังเกตการณ์ มองว่า แม้ว่ายูเรเนียมเสริมสมรรถนะในคลังแร่ยูเรเนียมของอิหร่านยังมีปริมาณที่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่เรื่องนี้ก็อาจจะเพิ่มความตึงเครียดกับสหรัฐฯเช่นกัน

          เมื่อวานนี้ อิหร่านได้ยึดเรือบรรทุกสารเคมีลำหนึ่งซึ่งติดธงชาติเกาหลีใต้ พร้อมลูกเรือ 20 คน รวมถึงลูกเรือชาวเกาหลีใต้ 5 คน ฐานปล่อยสารเคมีให้รั่วไหลสู่ทะเล สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในอ่าวเปอร์เซีย การยึดเรือมีขึ้นขณะเรือแล่นอยู่ในทะเลโอมานใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ขณะแล่นมุ่งหน้าสู่รัฐฟูไจราห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งทางสถานทูตเกาหลีใต้ได้ประสานกับทางการอิหร่านขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยของลูกเรือทุกคน

          ทั้งสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังครบรอบหนึ่งปีหลังสหรัฐฯ ใช้โดรนโจมตีทางอากาศไปที่ขบวนรถของพล.ต.กัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ หน่วยงานพิเศษในสังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านเสียชีวิตใกล้สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด อิรักเมื่อวันที่ 3 มกราคม และไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อนวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯจะสิ้นสุดลง

          สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยนายทรัมป์ สั่งการให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส นิมิตซ์ของกองทัพเรือสหรัฐฯประจำการอยู่ในตะวันออกกลางต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อน จากเดิมที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯมีแผนจะส่งเรือดังกล่าวแล่นออกจากภูมิภาคดังกล่าว เพื่อส่งสัญญาณถึงอิหร่านว่าสหรัฐฯพร้อมจะตอบโต้ ถ้าอิหร่านใช้โอกาสครบรอบหนึ่งปี ล้างแค้นให้กับพล.ต.โซเลมานี โดยการโจมตีหน่วยทหารสหรัฐฯในตะวันออกกลาง

Cr: CNN