อังกฤษ เลื่อนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ออกไปอีก 12 สัปดาห์
รัฐบาลอังกฤษ ตัดสินใจที่จะเลื่อนการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสที่ 2 หรือเข็มที่ 2 ออกไปเพื่อต้องการให้มีจำนวนประชาชนมากที่สุดได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคระบาด โดยเข็มที่ 2 จะได้รับครั้งถัดไปอีก 12 สัปดาห์หลังจากเข็มแรกแทนที่จะเป็น 21 วันตามกำหนด
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า การเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ออกไปของรัฐบาลอังกฤษ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแสดงความวิตกกังวลประสิทธิภาพของวัคซีน
หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนต์ของอังกฤษ รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการระบาดวิทยาชื่อดังของสหรัฐฯและเป็นหนึ่งในทีมรับมือโควิด-19ของทำเนียบขาว ดร.แอนโธนี เฟาซี ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ในเรื่องนี้ว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของอังกฤษ การทดสอบด้านคลินิกวิทยา พบว่า ระยะเวลาห่างที่ดีที่สุดสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่ 2 ในของวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาอยู่ที่ 28 วัน และของบริษัทไฟเซอร์อยู่ที่ 21 วัน
ด้านผู้เชี่ยวชาญอังกฤษ ศาสตราจารย์ แอนโธนี ฮาร์นเดน ผู้ช่วยประธานกรรมการกรรมาธิการร่วมชุดวัคซีนและการให้ภูมิคุ้มกัน หรือ JCVI ย้ำว่า การเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ออกไปถือเป็นสิ่งถูกต้อง นายฮาร์นเดนกล่าวว่า ผู้ป่วยยอมรับในข้อเสนอนี้ เมื่ออธิบายให้ฟังว่าการฉีดวัคซีนเข็มแรกสร้างภูมิคุ้มกันร้อยละ 90 และสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกคนให้มากที่สุดในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง
มีผล 6 ม.ค. ! อังกฤษ ล็อกดาวน์ ทั่วประเทศ
อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงถึง 54,990 คน และได้เห็นเคสใหม่เพิ่มไม่ต่ำกว่า 50,000 คนมา 6 วันติดต่อกัน ล่าสุด รัฐบาล เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ คาดว่า รัฐสภาจะผ่านความเห็นชอบและจะมีผลบังคับใช้ทันทีวันที่ 6 ม.ค.2564 นายกฯบอริส จอห์นสัน เปิดเผยว่า การล็อกดาวน์รอบนี้เข้มงวดมากกว่าครั้งก่อน มาตรการที่จะบังคับใช้ ประกอบด้วย
-ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน
-การออกมานอกบ้าน ต้องมีความจำเป็น เช่น ออกมาทำงาน ไปซื้อของ พบแพทย์ ออกกำลังกายคนเดียว ไปดูแลผู้ป่วย
-ปิดโรงเรียนทั่วประเทศไปถึงกลางเดือนก.พ.2564
-การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยใช้เรียนออนไลน์แทน
-การดูแลเด็กในเนอสเซอร์รี่ยังสามารถทำได้
- ร้านค้าปลีก ยิม ฟิตเนส สถานบันเทิง ปิดทั่วประเทศ
-คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหาร ซื้อกลับบ้าน
คาด ญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินในโตเกียว 1 เดือน เริ่มเสาร์นี้
สำนักข่าวเกียวโด รายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว และ 3 จังหวัดโดยรอบ เป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากนายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกฯ ญี่ปุ่น แถลงว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว และ 3 จังหวัดโดยรอบ หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่
เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ม.ค. 2564 กรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงอีก 3 แห่งได้เรียกร้องรัฐบาลกลางญี่ปุ่นให้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น ทำให้ระบบสาธารณสุขได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
รัฐบาลกลางญี่ปุ่น เคยประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 เมื่อเดือนเม.ย.2563 ครอบคลุมบางจังหวัดรวมถึงโตเกียวและโอซากาก่อนจะขยายไปทั่วประเทศ และได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินดังกล่าวเมื่อปลายเดือนพ.ค.2563
คลายล็อกดาวน์! เปิดโรงเรียนและพิพิธภัณฑ์ในกัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชา ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์นาน 6 สัปดาห์ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุด รัฐบาล อนุญาตให้โรงเรียนเอกชนเปิดการเรียนการสอนได้แล้วแต่นักเรียนในโรงเรียนรัฐบาลจะเริ่มกลับเข้าชั้นเรียนในสัปดาห์หน้า กัมพูชาเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากรเพียง 16 ล้านคน เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมในประเทศเพียง 382 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่เริ่มการระบาดและพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนในเดือน พ.ย. 2563
นอกจากอนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนแล้ว ยังเปิดพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลงในเมืองหลวงด้วย คนขับรถตุ๊กตุ๊ก อายุ 43 ปี เฝ้ารอให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว เปิดเผยว่า ยังมีความกังวลว่าจะติดเชื้อ แต่ก็เห็นว่าชาวกัมพูชา ปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลที่กำหนดให้ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ และเว้นระยะห่างทางสังคม ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ขึ้น
ไม่ต้องกักตัว! สิงคโปร์ ผ่อนคลายให้คนที่ฉีดวัคซีน และร่วมประชุมศก.ไม่ต้องกักตัว
สิงคโปร์ จะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเรื่องการเดินทางให้คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เรียบร้อยแล้ว รวมถึงคนที่มีแผนที่จะเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่สิงคโปร์ จะเป็นเจ้าภาพในเดือนพ.ค.2564 นี้
นายลอว์เรนซ์ หว่อง ผู้นำร่วมของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อรับมือกับโควิด-19 ของรัฐบาล กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาสิงคโปร์ว่าขณะนี้มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดลดลงได้อย่างชัดเจน เมื่อมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนั้น รัฐบาลจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่กำหนดให้อยู่แต่ภายในบ้าน สำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลจะทบทวนคนที่ฉีดวัคซีนแล้วและจะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม หรือ สภาเศรษฐกิจโลกในสิงคโปร์ ซึ่งการประชุมนี้เป็นที่สนใจของประชาชนหลายพันคน ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ บุคคลสำคัญจากทั่วโลก
การประชุมประจำปีของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ย้ายจากเมืองดาวอส ในสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในยุโรป
สิงคโปร์ ประกาศห้ามการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจาก การระบาดของโควิด-19 และจำกัดการเดินทางเพื่อประกอบธุรกิจหรือของทางการสำหรับบางประเทศ ส่วนคนที่พักอยู่ในสิงคโปร์แล้วเดินทางกลับมาจากต่างประเทศจะต้องกักตัวเองที่โรงแรมที่ทางการกำหนดไว้หรือที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในประเทศในเอเชียกลุ่มแรก ๆ ที่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชน กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า ประชาชนเกือบร้อยละ 60 มีความประสงค์จะเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่บางคนลังเล เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสในสิงคโปร์อยู่ในระดับต่ำเพราะทางการสามารถควบคุมได้ดีและบางคนกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนที่มีการพัฒนาอย่างเร่งรีบ