ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564

ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิด-19 อีก 45 วัน

          รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ (ศบค.) เห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ออกไปอีก 45 วัน หรือสิ้นเดือน ก.พ. เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป

          ในที่ประชุม ศบค.ยังพูดคุยถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง 28 จังหวัด โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ทุกพื้นที่ แต่การออกข้อกำหนดต่างๆ ให้อำนาจผู้ว่าฯในการตัดสินใจตามสถานการณ์

          ส่วนที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมออกประกาศกำหนดเวลาปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านตั้งแต่เวลา 19.00 น.-06.00 น.นั้น เกิดเสียงวิจารณ์จากผู้ประกอบการและประชาชนบางส่วน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นว่ามีเสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการร้านอาหารได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากยังเป็นช่วงเวลาที่คนเพิ่งจะเลิกจากการทำงานหรือภารกิจต่างๆ

          นอกจากนั้นหลายส่วนเห็นว่าสถานประกอบการร้านอาหารไม่ใช่สาเหตุหลักที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 และที่ผ่านมามีมาตรการป้องกันตามข้อกำหนดของสาธารณสุข ซึ่งการระบาดในรอบนี้ นอกจากแรงงานต่างด้าว ยังมาจากแหล่งบ่อนการพนันต่างๆ จึงเห็นควรให้ขยายเวลาปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 21.00น.

อ่างทองยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 14 คน ยอดสะสม  44  พบเกี่ยวข้องกับสนามชนไก่  

          นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งยอดผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดอ่างทอง สะสมอยู่ที่ 44 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่ โดยมีข้อความว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 14 คน  (ยอดติดเชื้อรวม 44 คน) ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่ วันนี้เราตรวจเชื้อกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 1,124 คน นั่น หมายความว่าจังหวัดอ่างทองดำเนินการเชิงรุกก่อนที่จะแพร่กระจายต่อเนื่อง

          พร้อมแจ้ง time line ที่ได้จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทองให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้มาคัดกรองครับ  ได้มาผมจะลงในทันทีครับ แต่ต้องแจ้งพี่น้องประชาชนว่าเนื่องจากผู้ติดเชื้อบางท่านไม่ให้ข้อมูลจึงเกิดความล่าช้า ซึ่ง จังหวัดอ่างทองได้ปรับวิธีในการนำเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในการสอบสวนมาช่วยแล้ว 

          วันนี้จังหวัดอ่างทองยังได้รับแจ้งว่ามีพ่อค้าแม่ค้าบางท่านยังไม่สวมหน้ากากในการขาย ต้องขอให้ทุกท่านช่วยกัน เพื่อจังหวัดอ่างทองครับ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดอ่างทอง ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 44 คนแล้ว ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามชนไก่

อีก 2 วัน รอผลสอบบ่อนจันทบุรี -ตราด

          การสอบสวนบ่อนการพนันแพร่ระบาดโควิด-19 ใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันเช็คไทม์ไลน์ของผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด  

          จเรตำรวจยืนยันว่า การทำงานของฝ่ายปกครองกับตำรวจในพื้นที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้มีการสั่งย้ายผู้บังคับการใน จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี แล้ว เหลือ จ.จันทบุรี กับ จ.ตราด ที่คณะกรรมการจเรตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบ อีก 2 วัน น่าจะเสนอให้ทราบเพื่อพิจารณาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

          ส่วนจะมีการโยกย้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่าผู้บังคับการหรือไม่ หลังภาคตะวันออกพบมีบ่อนแพร่โควิด-19 เกือบทุกจังหวัด พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ต้องดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งพล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ทำงานเต็มที่ แต่ช่วงนี้มีโควิด-19 แพร่ระบาด และจุดแรกที่พบมาจากภาคตะวันออกทั้งหมด ซึ่งได้กำชับไปทุกพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 - 9 ว่าห้ามมีบ่อนการพนัน ใครมีเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ 1599

         สำหรับการดำเนินคดีกับเจ้าของบ่อนการพนัน หรือจัดให้มีการเล่นพนัน จะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์แล้ว ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ก็ให้เบาะแสมาแล้วส่วนหนึ่ง

         ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับทุกพื้นที่ต้องไม่มีบ่อนการพนัน และสถานที่มั่วสุม และให้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 234/2548 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุขอย่างเคร่งครัด คำสั่งดังกล่าวระบุว่ากรณีที่มีหน่วยงานระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นไป สั่งการหรือไปทำการจับกุม นอกจากเจ้าของพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 - 9 ต้องรับผิดชอบแล้ว หน่วยในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คือ กองปราบปราม กองตำรวจรถไฟ กองตำรวจน้ำ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ กองทะเบียนที่รับผิดชอบพื้นที่ที่พบการกระทำผิดและหรือรับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข จะต้องถูกพิจารณาข้อบกพร่องด้วย พร้อมสั่งให้เช็คประวัติว่าใครมีพฤติการณ์ลักลอบทำบ่อน ลักลอบเล่นพนันทุกประเภท ซึ่งช่วงนี้ต้องขอความร่วมมือกับทุกคนทั้งผู้เล่นและคนที่ทำบ่อนต้องเลิกทำ

พนักงาน ‘EGCO’ สำนักงานใหญ่ติดโควิด 1 คน กักตัวผู้เกี่ยวข้อง 14 วัน ไม่กระทบการทำงาน

          นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงานสำนักงานใหญ่จำนวน 1 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อทราบผลและได้รับการยืนยันจากแพทย์เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 และปัจจุบันเข้ารักษาตัวตามกระบวนการควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เรียบร้อยแล้วและเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และได้แจ้งให้พนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จำนวน 31 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งผลการตรวจพบว่า 28 คนไม่พบการติดเชื้อ และอีก 3 คนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ

          อย่างไรก็ตาม สำหรับพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดให้กักตนเอง (Self-Quarantine) เพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและพ่นยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ของสำนักงานใหญ่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.64 

รัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ส่งผลหุ้นปิดบวก 18 จุด

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,468.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 89,208.19 ล้านบาท หุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงบ่ายดัชนีฯได้ดีดกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้หลังจากที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่อยากให้มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ และกำลังหามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ อีกด้วย ทำให้เล็งเห็นว่าเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้

นิกเกอิดิ่ง หลังญี่ปุ่นเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน อีกรอบ

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2564 โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมด้านสันทนาการปรับตัวลดลง หลังจากนายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าอาจจะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดโดยรอบในเร็วๆนี้

          ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 27,258.38 จุด ลดลง 185.79 จุด หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มขนส่งทางบก และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

          ด้านผู้นำญี่ปุ่น อยู่ระหว่างพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว-ปริมณฑล นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะของญี่ปุ่น เปิดเผยในการแถลงข่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำประกาศภาวะฉุกเฉินกรุงโตเกียวและ 3 จังหวัดในเขตปริมณฑลคือจังหวัดไซตามะ,ชิบะ และจังหวัดคานากาวา หลังตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยใหม่ 4,520 คน ขณะเดียวกัน ภาครัฐจะพิจารณาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ

          นายสึกะ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศชื่อว่า Go To Travel อาจจะต้องหยุดพักภายในวันที่ 11 มกราคมนี้  ก่อนกำหนดสิ้นเดือนมกราคม หลังเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมปีก่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หลังอ่อนแอเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

          หลังประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมลงมติโดยสภาไดเอทในวันที่ 18 มกราคมนี้ นับเป็นการประกาศครั้งที่ 2 หลังประกาศภาวะฉุกเฉินฉบับแรกในเดือนเมษายนปีที่แล้ว และยกเลิกเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน

          ส่วนเรื่องโครงการวัคซีน นายสึกะกล่าวว่ารัฐบาลจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนราวปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อลดการแพร่ระบาดเร็วกว่ากำหนดเดิมคือกลางเดือนมีนาคมนี้

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังจากดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดแดนลบ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 27,472.81 จุด เพิ่มขึ้น 241.68 จุด

สหราชอาณาจักรเปิดตัว ชายวัย 82 ปี เป็นคนแรก ได้ฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกา

          การฉีดวัคซีนตัวที่ 2 จากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด-บริษัทแอสตราเซเนกาในสหราชอาณาจักรในวันนี้เป็นวันแรก  หลังได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว สำนักบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า นายไบรอัน พินเกอร์ อายุ 82 ปี คนไข้จากเมืองอ็อกซฟอร์ด ที่ต้องฟอกไตเป็นประจำ เป็นคนไข้คนแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีนใหม่จากมหาวิทยาอ็อกซฟอร์ด-บริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร

          นายพินเกอร์เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่เข้ารับการฉีดวัคซีนจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด เนื่องจากตัวเขาเกิดและเติบโตในเมืองอ็อกซฟอร์ด และภูมิใจที่วัคซีนนี้ผลิตขึ้นในเมืองอ็อกซฟอร์ด ชื่นชมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรว่าทำงานอย่างเสียสละรักษาชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ระบุว่าเขาตั้งตาคอยฉลองวาระครบรอบแต่งงานปีที่ 48 กับภรรยาคือนางเชอร์ลีย์ ปลายปีนี้

          ก่อนหน้าวัคซีนจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด-บริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักรได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (JCVI)แห่งสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อให้ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 หลังการอนุมัติวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯ-เยอรมนีเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนจากไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยนางมาร์กาเรต คีแนน วัย 90 ปี เป็นคนแรกของโลกที่รับการฉีดวัคซีนจากไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค

อินโดฯ เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สัปดาห์หน้า ให้จนท.สธ.-ข้าราชการเป็นกลุ่มแรก

          นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต หัวหน้าทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะเริ่มต้นให้กับประชาชนของอินโดนีเซีย โดยขณะนี้องค์การอาหารและยา(BPOM)อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติวัคซีนโคโรนาวัค (CoronaVac) จากบริษัทซิโนวัค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) ผู้ผลิตยาชีวเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน พร้อมทั้งพิจารณาผลวิจัยทางคลินิกในบราซิลและตุรกีมาประกอบการพิจารณา คาดว่า BPOM จะอนุมัติในเร็วๆนี้

         ด้านนายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียมีแผนจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนราว 181 ล้านคนหรือร้อยละ 67 ของประชากรทั้งหมดของประเทศ เพื่อให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันโรค โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 1,300,000 คนจะเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีน กลุ่มต่อไปคือ ข้าราชการและกลุ่มอื่นๆ ซึ่งอินโดนีเซียตั้งเป้าโครงการฉีดวัคซีนจะดำเนินการเสร็จภายใน 15 เดือนข้างหน้า

          ด้านนายบัมบัง เฮริยันโต เลขานุการของบริษัทไบโอ ฟาร์มา (Bio Farma) บริษัทผลิตยาของรัฐบาลอินโดนีเซียเปิดเผยว่าบริษัทฯเริ่มจัดส่งวัคซีนราว 714,000 โดสแรกจากจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อจากบริษัทซิโนวัค ไบโอเทคไปยังศูนย์ฉีดวัคซีน 32 จังหวัดทั่วประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจะได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทันที่ได้รับการอนุมัติจาก BPOM ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้รับมอบวัคซีน 3 ล้านโดสจากบริษัทซิโนวัค ไบโอเทค

          ข้อมูลเบื้องต้น ระบุว่า วัคซีนโคโรนาวัค มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคร้อยละ 91.25 ทั้งนี้ อินโดนีเซีย มีผู้ป่วยสะสม 772,103 คน เสียชีวิต 22,911 ราย เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเอเชีย ที่ผ่านมาอินโดนีเซียได้จัดซื้อวัคซีนกว่า 329 ล้านโดส ส่วนใหญ่จากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯและเยอรมนี และบริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร

อุบัติเหตุปีใหม่ ลดลงร้อยละ 30 นครราชสีมาทำสถิติบาดเจ็บสูงสุด

          ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2564 (29 ธ.ค.63-4 ม.ค.64) มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนรวม 20,506 คน เสียชีวิตรวม 389 ราย ลดลงจากปี 63 ที่พบผู้บาดเจ็บ 29,155 คน เสียชีวิต 482 ราย หรือลดลงร้อยละ 30  และ ร้อยละ 19 ตามลำดับ โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาหรือ Admit ในโรงพยาบาล 4,065 คน คิดเป็นร้อยละ 19

          จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา 1,051 คน, เชียงใหม่ 814 คน, ขอนแก่น 754 คน, บุรีรัมย์ 631 คน และเชียงราย 596 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา 27 ราย, เชียงราย 17 ราย, บุรีรัมย์ 16 ราย, อุดรธานี และชลบุรี จังหวัดละ 14 ราย

          ปลัด สธ.กล่าวว่า จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังคงสูงในช่วงวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่ โดยวันที่ 31 ธ.ค.63 มีผู้บาดเจ็บ 4,523 คน เสียชีวิต 79 ราย ส่วนวันที่ 1 ม.ค.64 มีผู้บาดเจ็บ 4,025 คน เสียชีวิต 83 ราย โดยพบว่าไม่สวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก 2,773 ราย คิดเป็นร้อยละ 16  และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 564 ราย คิดเป็นร้อยละ 26

          ส่วนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดผู้ได้รับบาดเจ็บทุกราย พบเป็นผู้ดื่มสุรามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินมาตรการ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 6,111 คน คิดเป็นร้อยละ 29 ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 1,038 คน คิดเป็นร้อยละ17 อย่างไรก็ตาม ถือว่าลดลงจากปี 63 ที่พบผู้ดื่มสุรารวม 8,283 คน หรือลดลงร้อยละ 26