ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564

นายกฯญี่ปุ่น เตรียมแถลง คาดอาจประกาศภาวะฉุกเฉิน  

          รัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อพิจารณาว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นหรือไม่ ในวันนี้ นายกฯโยชิฮิเดะ สึกะ จะแถลงรายละเอียดความคืบหน้าเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ได้รับข้อเรียกร้องจากผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ  สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและอื่น ๆ จะหารือในรายละเอียด เช่น พื้นที่ใดควรจะประกาศภาวะฉุกเฉิน และถ้าประกาศภาวะฉุกเฉิน จะต้องประกาศเป็นระยะเวลานานเท่าไร ภายหลังจากที่ได้มีการตรวจสอบสถานการณ์การติดเชื้อและระบบการแพทย์ในปัจจุบันแล้ว

          ญี่ปุ่นเผชิญปัญหาในการควบคุมโควิด-19  กรุงโตเกียวรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 816 คน หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ธ.ค. 2563 ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งแตะทำสถิติที่ 1,337 คน

          กรุงโตเกียว เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดใน 47 จังหวัด จำนวนผู้ติดเชื้อที่อาการหนักอยู่ที่ 101 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสามหลักเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ได้มีการยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว

กัมพูชา จะสั่งซื้อวัคซีนเฉพาะที่ได้รับการรับรองจาก WHO เท่านั้น

           หลังจาก 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มี 2 ประเทศที่ได้จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 และแจกให้ประชาชนในประเทศแล้ว คือ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

           ในส่วนของกัมพูชา นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา กล่าวถึง การสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของประเทศว่ากัมพูชาจะจัดซื้อวัคซีนเฉพาะที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เท่านั้น และจะไม่สั่งวัคซีนใดๆ จนกว่า WHO จะอนุมัติ และจะไม่ใช้ประชาชนของตัวเองทดสอบวัคซีนจากที่ต่างๆ  

          รัฐบาลกัมพูชา ประกาศเมื่อเดือน ธ.ค.2563 ว่าจะจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,000,000 โดส สำหรับโครงการฉีดวัคซีนเฟส 1 ให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่กำหนดการมาถึงของวัคซีนชุดแรกยังคงไม่ชัดเจน

          ผู้นำกัมพูชา ยืนยันว่า สำหรับประชาชน 3,200,000 คน จะได้รับการจัดสรรจากโครงการCOVAX ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ สำหรับชาวกัมพูชาอีกราว 13,000,000 คน หรือ ร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมดของประเทศจะสั่งซื้อภายใต้กระบวนการต่างๆ ที่รวมถึงการเจรจาโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ผู้บริจาค และอื่นๆ

          แม้ทางการจะมีมาตรการการฉีดวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่บังคับ แต่นายกฯ ฮุนเซน ย้ำเตือนว่าการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การเว้นระยะห่างระหว่างกัน ยังคงต้องปฏิบัติอยู่เช่นเดิม

ฮ่องกง ให้ความมั่นใจวัคซีนปลอดภัย ไม่ใช่หนูทดลอง

          คณะทำงานเฉพาะกิจการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของฮ่องกงให้ความมั่นใจกับชาวฮ่องกงว่า วัคซีนปลอดภัยเพราะทางการเตรียมมาตรการควบคุมไว้สามระดับ  นพ.โธมัส จาง หนึ่งในคณะที่ปรึกษาเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19และอดีตหัวหน้าศูนย์คุ้มครองสุขภาพฮ่องกง กล่าวว่า ชาวฮ่องกงไม่ต้องกังวลใจเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนที่จะเริ่มใช้ในเดือนหน้า เพราะวัคซีนที่รัฐบาลจัดซื้อต้องขึ้นทะเบียนและใช้อย่างกว้างขวางในประเทศอื่น ๆ ชาวฮ่องกงจะไม่ใช่หนูทดลองอย่างแน่นอน คณะที่ปรึกษาทั้ง 12 คนได้วิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์อย่างถี่ถ้วนถึงประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละขนานก่อนจะอนุมัติให้ใช้

          ขณะเดียวกันทางการได้ดำเนินโครงการรับรองความปลอดภัยสามระดับร่วมกับมหาวิทยาลัยในฮ่องกงเพื่อติดตามผลข้างเคียงจากการฉีด เชื่อว่า คนในฮ่องกงอยากฉีดเพื่อสุขภาพของตัวเองและสังคม

          เมื่อวันเสาร์ 2 ม.ค. 2564 ฮ่องกง พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 35 คน ทำให้ยอดสะสมเป็น 8,923 คน เสียชีวิต 150 ราย

          เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกง กล่าวว่า จะจัดหาวัคซีน 22.5 ล้านโดสจากสามแหล่ง เพียงพอสำหรับคนในฮ่องกง 7,500,000 คน วัคซีนหนึ่งล้านโดสแรกจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ดูแลในบ้านพักคนชราและบ้านพักคนพิการ และคนที่มีอายุตั้งแต่ 85 ปีขึ้นไป วัคซีนทั้งสามแหล่งประกอบด้วยซิโนแวกไบโอเทคของจีน บริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และแอสตราเซเนกาของอังกฤษแหล่งละ 7,500,000 โดส

เกาหลีใต้ ใช้ยาแรง ผู้ติดเชื้อลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4สัปดาห์

          สถานการณ์ในเกาหลีใต้ ดูเหมือนว่าจะดีขึ้น แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าสามารถควบคุมการระบาดระลอกที่ 3 ได้แล้ว  เมื่อวันเสาร์ 2 ม.ค.2564 รัฐบาลออกคำสั่งเข้มข้นมากขึ้น

-ตัดสินใจขยายคำสั่งห้ามการชุมนุมแบบส่วนตัวมากกว่า 4 คน ครอบคลุมทั้งประเทศ

-ขยายข้อบังคับเว้นระยะห่างทางสังคมในกรุงโซลและปริมณฑลจนถึงวันที่ 17 ม.ค. 2564

          เมื่อวานนี้ 3 ม.ค.2564 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเกาหลีใต้ กล่าวว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ได้แล้ว เนื่องจาก มีรายงานผู้ติดเชื้อต่ำสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ เนื่องจากการใช้ข้อบังคับเข้มงวดกว่าเดิมเมื่อช่วงวันหยุดปีใหม่

          สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคดีซีเอ) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันเสาร์ 3 ม.ค.2564 อยู่ที่ 657 คน ลดลงอย่างมากจาก 824 คน ทำให้ยอดติดเชื้อรวมอยู่ที่ 63,244 คน และเสียชีวิต 962 ราย

          นายซอน ยังรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาวุโส บรรยายสรุปว่า เกาหลีใต้กำลังจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดของประเทศ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าสถานการณ์กำลังจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

สหภาพครูในสหราชอาณาจักร เรียกร้องปิดโรงเรียนทั่วประเทศอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์

          สหราชอาณาจักร กำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมถึงร้อยละ 70 โดยเฉพาะการระบาดอย่างหนักในลอนดอนและพื้นที่โดยรอบ

          สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 57,725 คน เป็นตัวเลขรายวันสูงสุดรอบใหม่นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และดูเหมือนในไม่ช้านี้จะแซงหน้า อิตาลี กลายเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หนักหน่วงที่สุดในยุโรป

          ก่อนหน้านี้ รัฐบาล ตัดสินใจปิดโรงเรียนทุกโรงเรียนในกรุงลอนดอน พยายามสกัดการแพร่ระบาด แต่สหภาพครูต้องการให้ขยายนโยบายดังกล่าวครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจาก กังวลสุขภาพของทั้งครูและนักเรียนและให้เรียนออนไลน์แทนอย่างน้อยอีก 2 สัปดาห์ ทำให้รัฐมนตรีสาธารณสุข ต้องพับแผนอนุญาตให้โรงเรียนประดับประถมบางแห่ง สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี ในเมืองหลวง กลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค.2564

          การต่อสู้กับไวรัส สหราชอาณาจักร เริ่มฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ให้ประชาชนอายุ 80 ปีขึ้นไปและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2563 และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลอนุมัติวัคซีนอีกตัวที่ผลิตโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกับแอสตราเซเนกา บริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งมีราคาถูกกว่าและใช้ง่ายกว่า