อินเดียอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อสนับสนุนโครงการสร้างภูมิคุ้มกันครั้งใหญ่ โดยในขณะนี้อินเดียมีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากเป็นอันดับ 2 ของโลกคือน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศและการกระจายเสียงของอินเดีย เปิดเผยในวันนี้ (2 ม.ค.) ว่าการอนุมัติวัคซีนมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ม.ค.) โดยนับเป็นวัคซีนตัวแรกที่ทางการอินเดียอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน และยังมีวัคซีนอีกอย่างน้อย 3 ชนิดที่รอการอนุมัติ ได้แก่โคแว็คซิน ของบริษัทภารัตไบโอเท็คของอินเดีย, ซีคอฟ-ดี ของซีดัส คาดิลา และสปุคนิค-ไฟว์ของรัสเซีย ซึ่งจะทำให้อินเดียอาจเป็นประเทศเดียวที่มีวัคซีนอย่างน้อย 4 ชนิดที่พร้อมใช้งาน
วัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ด ได้รับการอนุมัติครั้งแรกจากสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคาร (28 ธ.ค.63) โดยมีราคาถูกและใช้งานง่ายกว่าวัคซีนชนิดอื่น แต่ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประสิทธิภาพ
สำหรับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ใช้ในอินเดียผลิตโดยโรงงานสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย โดยองค์การควบคุมมาตรฐานยากลางของอินเดียจะประกาศปริมาณและรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในภายหลัง โดยวัคซีนนี้จะฉีด 2 เข็มในช่วงเวลาห่างกัน 28 วัน ซึ่งอินเดียมีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากร 300 ล้านคนจาก 1,350 ล้านคนในช่วง 6 ถึง8 เดือนแรกของปีนี้ โดยสถาบันเซรุ่มระบุว่า มีการกักตุนวัคซีนของแอสตราเซเนกาไว้แล้วประมาณ 50 ล้านโดส
....