สหราชอาณาจักรเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ออกไป 12 สัปดาห์ หวังกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกกลุ่มเสี่ยง

          หลังรัฐบาลสหราชอาณาจักรแจ้งให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกจากบริษัทไฟเซอร์ และบริษัทแอสตราเซเนกาทราบว่า รัฐบาลขอเลื่อนโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 12 สัปดาห์จากเดิมเพียง 3 สัปดาห์ ครบกำหนดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ทำให้สมาคมแพทย์สหราชอาณาจักรวิจารณ์ว่าไม่เป็นธรรมกับกลุ่มผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ต้องรอไปอีกหลายสัปดาห์ อาจจะทำให้การป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้ผลเต็มที่ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เสียเวลาเปล่า

          หัวหน้าคณะแพทย์ 4 คนของรัฐบาลสหราชอาณาจักร รวมถึง นพ.คริส วิตตี เปิดเผยว่า การเลื่อนโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มีโอกาสเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกอย่างทั่วถึง ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมโรคในภาพรวมของประเทศ นอกจากนั้น การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคและการขยายระยะเวลาถือว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้วัคซีนเข็มแรกทำงานเต็มประสิทธิภาพ

         ด้าน นพ.เดวิด ซาลิสบิวรี อดีต ผอ.โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรค กรมอนามัยของสหราชอาณาจักร ยอมรับว่าเขาเองรู้สึกไม่สบายใจที่ภาครัฐเลื่อนระยะเวลาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ออกไป แต่อีกด้านหนึ่งก็เห็นว่า การเลื่อนโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปอีกเล็กน้อยเช่นนี้จะเกิดผลดีในแง่ที่จะทำให้กลุ่มเสี่ยงต่างๆได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเร็วขึ้น จะทำรักษาชีวิตของคนส่วนใหญ่ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19  หลังพบว่า วัคซีนที่ผลิตในระยะแรกๆยังมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการซึ่งสูงมาก

          ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการฉีดเข็มแรก กลุ่มเสี่ยงอื่นๆในลำดับท้ายๆของโครงการฉีดวัคซีนอาจจะเสียชีวิตไป โดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ขณะเดียวกันกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ร่างกายเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ใน 3 สัปดาห์ตามแผนการที่กำหนดไว้ในช่วงแรก

          สหราชอาณาจักร เริ่มฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงเข็มแรกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2563 ขณะที่ ปัจจุบัน สหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยสะสม 2,488,780 คน เสียชีวิต 73,512 ราย

Cr: BBC