คุณนุช คนไทยในรัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุ จส.100 เกี่ยวกับประสบการณ์เป็นอาสาสมัครรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา
-ช่วงเดือน ก.ค. 2563 คุณนุช ได้ข่าวการเปิดรับอาสาสมัครผ่านออนไลน์ จึงสมัครไป จากนั้นได้รับโทรศัพท์จากบริษัทโมเดอร์นา ติดต่อให้ไปที่ศูนย์ตรวจโควิด-19 ที่เมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมรี่แลนด์ เพื่อผ่านกระบวนการซักถามคัดเลือกเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร
-วันที่ 27 ก.ค.63 เริ่มเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร โดยคำถามที่แพทย์ของบริษัทโมเดอร์นาซักถามเพื่อคัดเลือกอาสาสมัครที่เหมาะสม เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก การแพ้อาหาร ซึ่งคุณนุช แพ้อาหารทะเล รวมทั้งมีการวัดความดันและตรวจสุขภาพทั่วไป แล้วแพทย์จึงแจ้งให้กลับบ้านเพื่อรอการติดต่อว่าผ่านการคัดเลือกหรือไม่
ผ่านไปเกือบเดือน จึงมีโทรศัพท์จากบริษัทโมเดอร์นา แจ้งว่าคุณนุชได้รับเลือกให้เป็นอาสาสมัคร และให้ไปรับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ที่ศูนย์ตรวจโควิด-19 ที่สะดวก ซึ่งคุณนุช ไปที่ศูนย์บัลติมอร์ และระหว่างนั้นทราบว่ามีคนไทยอีกคนที่ได้รับเลือกเป็นอาสาสมัครด้วย
การฉีดวัคซีนเข็มแรก ฉีดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.63 หลังจากฉีด ไม่พบว่ามีอาการผิดปกติ แต่แพทย์แจ้งให้นั่งพักเพื่อดูอาการครึ่งชั่วโมงว่าจะมีอาการแพ้หรือไม่ ซึ่งในกลุ่มคนที่มีอาการแพ้ จะมีผื่นแดงขึ้นเป็นวงรอบจุดที่ฉีด แต่สำหรับคุณนุชไม่มีอาการอะไร แพทย์จึงให้กลับบ้าน พร้อมให้เอกสารที่แจ้งอาการแพ้ในแต่ละคน เพื่อให้สังเกตอาการตัวเอง ในส่วนของคุณนุช ทันทีที่กลับถึงบ้าน ก็มีอาการอ่อนเพลียและหลับไปทันที และตื่นขึ้นมาด้วยอาการปกติ สามารถทำงานต่อได้ ซึ่งตามเอกสารแจ้งไว้ว่า เป็นอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีน แต่อาการแพ้หรืออาการที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับทุกคนหรือมีอาการเดียวกันทุกคน แต่หากมีอาการ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย
สำหรับการรายงานอาการ จะมี 2 รูปแบบ คือ จะมีแพทย์ของบริษัทโมเดอร์นาโทรศัพท์สอบถามอาการทุกวันศุกร์ และการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของบริษัทโมเดอร์นา เพื่อตอบคำถาม โดยบริษัทจะส่งชุดคำถามมาให้ทันทีหลังจากฉีดยาวันแรก โดยคำถามประกอบด้วย มีอาการผิดปกติหรือไม่ มีอาการแพ้ตามลิสต์ที่ให้ไปสังเกตอาการหรือไม่ ได้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหรือไม่,เพื่อนร่วมงานหรือบุคคลที่ต้องเกี่ยวข้องด้วยได้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหรือไม่ ซึ่งแพทย์ของบริษัทโมเดอร์นา แนะนำว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยและปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเหมือนเดิม สามารถปฎิบัติกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม
จนวันที่ 17 ต.ค.63 คุณนุช ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่ 2 ซึ่งมีขั้นตอนเหมือนเดิม แต่คราวนี้คุณนุชไม่มีอาการอ่อนเพลียหลังฉีด และยังต้องรายงานอาการผ่านแอปพลิเคชัน รวมทั้งตอบคำถามแพทย์ที่โทรศัพท์มาสอบถามอาการเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว ถือว่ารับยาครบแล้ว แต่ยังมีกระบวนการเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบอาการ โดยแพทย์นัดเป็นรายครั้ง คือ วันที่ 27 ม.ค.64 ,วันที่ 27 มิ.ย.64 ,วันที่ 29 พ.ย.64 และสุดท้ายวันที่ 29 ธ.ค.64 จึงจะถือว่าสิ้นสุดกระบวนการเป็นอาสาสมัคร
.jpg)
คุณนุช เปิดใจว่า สาเหตุที่สมัครเป็นอาสาสมัครทดลองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา เพราะในสหรัฐฯ นั้น การเข้าถึงแพทย์เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่หากเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร จะมีเงื่อนไขหนึ่งคือ หากระหว่างการทดลองแล้วมีอาการแพ้ วัคซีนไม่ได้ผล หรือเกิดการติดเชื้อโควิด-19 จากที่อื่น ทางบริษัทจะรักษาให้ฟรี คุณนุชจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษา โดยไม่ได้แจ้งทางบ้านหรือเพื่อนฝูงก่อน แต่หลังจากฉีดวัคซีนแล้วจึงแจ้งรายละเอียดให้ครอบครัวทราบ และยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ในขณะที่อาสาสมัครบางรายที่มีอาการแพ้ ทางบริษัทโมเดอร์นาก็จะรายงานเกี่ยวกับอาการแพ้ให้สาธารณชนรับทราบตามขั้นตอน