ผลศึกษาเผยอังกฤษต้องฉีดวัคซีนสัปดาห์ละ 2 ล้านคนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกที่ 3

          วิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน (LSHTM) ของอังกฤษเปิดเผยว่าอังกฤษจะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2,000,000 คนต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ร่วมด้วยการใช้มาตรการควบคุมโรคที่มีความเข้มงวดมากขึ้น เช่นกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมโรคระดับที่ 4 หรือระดับสูงสุด ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม เทียบเท่ากับมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองทั่วประเทศครั้งที่ 2 ซึ่งเคยบังคับใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยประชาชนในพื้นที่จะต้องอยู่ภายในบ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เช่น เดินทางไปเรียนหรือทำงาน และจะไม่อนุญาตให้ผู้คนจากต่างครัวเรือนรวมตัวในที่เดียวกัน ปิดโรงเรียนจากบัดนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า

          ทั้งนี้ หากโครงการฉีดวัคซีนของภาครัฐไม่สามารถครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ ตัวเลขผู้ป่วยในแผนกไอซียูและผู้เสียชีวิตในปีหน้าอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยในปัจจุบัน อังกฤษมีผู้ป่วยสะสม 2,329,730 คน เสียชีวิต 71,109 ราย นับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับกลุ่มเสี่ยงเช่นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้สูงอายุในอังกฤษเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 600,000 คน

          และคาดว่าหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบยาของอังกฤษจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาของอังกฤษได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะเริ่มกระจายวัคซีนในวันที่ 4 มกราคมปีหน้า

...